เอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เลขที่ 17/2558
เอกสารประกวดราคา▇▇▇▇ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เลขที่ 17/2558
การ▇▇▇▇เดินสาย Fiber optic เชื่อมโยงจากห้อง Data center ไปยังอาคาร 2 และ 3 ตามประกาศสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลง▇▇▇▇▇▇ 8 กันยายน 2558
สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “สํานักงาน” มีความ▇▇▇▇▇▇▇จะประกวดราคา▇▇▇▇โดยการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ในการ▇▇▇▇เดินสาย Fiber optic เชื่อมโยงจากห้อง Data center ไปยังอาคาร 2 และ 3 ณ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ เลขที่ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร โดยมีข้อแนะนําและข้อกําหนดดังต่อไปนี้
1. เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคา
1.1 แบบรูปรายการละเอียด
1.2 แบบใบเสนอราคาที่กําหนดไว้ในระบบการจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
1.3 แบบสัญญา▇▇▇▇
1.4 แบบหนังสือค้ําประกัน
(1) หลักประกันการเสนอราคา
(2) หลักประกันสัญญา
1.5 บทนิยาม
(1) ผู้เสนอราคาที่มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ร่วมกัน
(2) การขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
1.6 แบบบัญชีเอกสาร
(1) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1
(2) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2
2. คุณสมบัติของผู้เสนอราคา
2.1 ผู้เสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่ประกวดราคา▇▇▇▇
2.2 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของทางราชการและได้ แจ้งเวียนชื่อแล้ว หรือไม่เป็นผู้ที่▇▇▇▇▇▇▇▇ของการสั่งให้นิติบุคคลหรือบุคคลอื่นเป็นผู้ทิ้งงานตาม▇▇▇▇▇▇▇ของ ทางราชการ
2.3 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทําการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามข้อ 1.5
2.4 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ได้รับ▇▇▇▇▇▇▇▇▇หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้เสนอราคาได้มีคําสั่งให้สละสิทธิ์และความ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ว่านั้น
2.5 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกประเมิน▇▇▇▇▇ผู้เสนอราคาในสถานะที่ห้ามเข้าเสนอราคา และห้ามทําสัญญาตามที่ กวพ.กําหนด
2
2.6 ผู้เสนอราคาจะต้องมีหนังสือรับรองผลงานทางด้านการรับจ้างเดินสาย Fiber optic ให้กับ หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน มาแล้วอย่างน้อย ๑ ผลงาน ภายในระยะเวลา ไม่เกิน ๒ ปี นับจนถึงวันยื่นเอกสารประกวดราคา โดยผลงานดังกล่าวจะต้องเป็นผลงานสัญญาเดียวที่มี▇▇▇▇▇▇ ไม่น้อยกว่า ๓๐๐,๐๐๐.- บาท (สามแสนบาทถ้วน)
2.7 ผู้เสนอราคาจะต้องมีหนังสือรับรองจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง หรือหนังสือรับรอง จากตัวแทนจําหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น โดยตัวแทนจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นด้วย
2.8 บุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่สัญญาต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับ รายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสําคัญ
2.9 บุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐซึ่งได้ดําเนินการจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Procurement : e-GP) ต้องลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลาง ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ภาครัฐ
2.10 คู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมี▇▇▇▇▇▇ ไม่เกินสามหมื่นบาท▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จ่ายเป็นเงินสดก็ได้
3. หลักฐานการยื่นข้อเสนอ
ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอเอกสารหลักฐาน ยื่นมาพร้อมกับใบเสนอราคาทางระบบจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ ภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ :-
3.1 ส่วนที่ 1 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นนิติบุคคล
(ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการ จดทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) พร้อมรับรองสําเนาถูกต้อง
(ข) บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อม รับรองสําเนาถูกต้อง
(2) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นบุคคลธรรมดาหรือ▇▇▇▇▇▇▇▇ที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสําเนา บัตรประจําตัวประชาชนของผู้นั้น สําเนาข้อตกลงที่แสดง▇▇▇▇▇▇เข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สําเนาบัตรประจําตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองสําเนาถูกต้อง
(3) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นผู้เสนอราคาร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสําเนาสัญญา ของการเข้าร่วมค้า สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใดเป็นบุคคล ธรรมดาที่มิใช่สัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสําเนาหนังสือเดินทาง หรือผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคล ให้ยื่นเอกสารตามที่ ระบุไว้ใน (1)
ถูกต้อง
(4) สําเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สําเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมรับรองสําเนา
(5) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ทั้งหมด▇▇▇▇▇▇ยื่นพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇
ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบในข้อ 1.6(1)
3
3.2 ส่วนที่ 2 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) หนังสือมอบอํานาจซึ่งปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย ในกรณีที่ผู้เสนอราคามอบอํานาจ ให้บุคคลอื่นลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือหลักฐานแสดงตัวตนของผู้เสนอราคาในการเสนอราคาทางระบบ จัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์แทน
(2) หนังสือรับรองผลงานทางด้านการรับจ้างเดินสาย Fiber optic
(3) หนังสือรับรองจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง หรือหนังสือรับรองจากตัวแทน จําหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น โดยตัวแทนจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้น
(4) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ทั้งหมด▇▇▇▇▇▇ยื่นพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบในข้อ 1.6(2)
4. การเสนอราคา
4.1 ผู้เสนอราคาต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กําหนดไว้ในเอกสารประกวดราคา▇▇▇▇อิเล็กทรอนิกส์นี้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอกข้อความ ให้ถูกต้องครบถ้วน ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือหลักฐานแสดงตัวตนของผู้เสนอราคาโดยไม่ต้องแนบใบเสนอ ราคาในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)
4.2 ผู้เสนอราคาต้องเสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาเพียงราคาเดียว โดยเสนอราคา รวมและหรือราคาต่อหน่วย และหรือต่อรายการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคาให้ถูกต้อง โดยคิดราคา รวมทั้งสิ้นซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอากรอื่น และค่าใช้จ่ายทั้งปวงไว้แล้ว
ราคาที่เสนอ จะต้องเสนอกําหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า 45 วัน นับแต่วันเสนอราคา โดย ภายในกําหนดยืนราคา ผู้เสนอราคาต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้และจะถอนการเสนอราคามิได้
4.3 ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอกําหนดเวลาดําเนินการเดินสาย Fiber optic เชื่อมโยงจาก ห้อง Data center ไปยังอาคาร ๒ และ ๓ ให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา▇▇▇▇
4.4 ก่อนการเสนอราคา ผู้เสนอราคาควรตรวจดูร่างสัญญา แบบรูป และรายละเอียด ฯลฯ ให้ถี่ถ้วน และเข้าใจเอกสารประกวดราคา▇▇▇▇อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเสียก่อนที่จะตกลงยื่นข้อเสนอตามเงื่อนไข ในเอกสารประกวดราคา▇▇▇▇อิเล็กทรอนิกส์
4.5 ผู้เสนอราคาจะต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ใน▇▇▇▇▇▇ 17 กันยายน 2558 ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น.
เมื่อพ้นกําหนดเวลายื่นข้อเสนอแล้ว จะไม่รับเอกสารการยื่นข้อเสนอใดๆ โดยเด็ดขาด คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จะดําเนินการตรวจสอบ
คุณสมบัติของผู้เสนอราคาแต่ละรายว่า เป็นผู้เสนอราคาที่มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ตามข้อ 1.5(1)
ณ วันประกาศประกวดราคาหรือไม่
หากปรากฏต่อคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ก่อนหรือในขณะ ที่มีการพิจารณาข้อเสนอว่า มีผู้เสนอราคารายใดกระทําการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามข้อ 1.5(2) และคณะกรรมการฯ เชื่อว่ามีการกระทําอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จะตัดรายชื่อผู้เสนอราคารายนั้นออกจากการเป็น ผู้เสนอราคา และสํานักงานฯ จะพิจารณาลงโทษผู้เสนอราคาดังกล่าวเป็นผู้ทิ้งงาน เว้นแต่คณะกรรมการฯ จะ วินิจฉัยได้ว่าผู้เสนอราคารายนั้นเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของทางราชการและมิได้ เป็นผู้ริเริ่มให้มีการกระทําดังกล่าว
4
ผู้เสนอราคาที่ถูกตัดรายชื่อออกจากการเป็นผู้เสนอราคา เพราะเหตุเป็นผู้เสนอราคาที่มี ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศประกวดราคา ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือเป็นผู้เสนอราคาที่กระทําการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อาจอุทธรณ์คําสั่งดังกล่าว ต่อปลัดกระทรวงภายใน 3 วัน นับแต่▇▇▇▇▇▇ได้รับแจ้งจากส่วนราชการ การวินิจฉัยอุทธรณ์ของปลัดกระทรวงให้ถือ เป็นที่สุด
ในกรณีที่ปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นด้วยกับคําคัดค้านของผู้อุทธรณ์และเห็นว่าการยกเลิก
การพิจารณาผลการเสนอราคา▇▇▇▇▇▇ดําเนินการไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง ให้ปลัดกระทรวง มีอํานาจยกเลิกการพิจารณาผลการเสนอราคาดังกล่าวได้
4.7 ผู้เสนอราคาจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
(1) ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
(2) ราคาที่เสนอจะต้องเป็นราคา▇▇▇▇▇▇ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่นๆ (ถ้ามี) รวมค่าใช้จ่าย
ทั้งปวงไว้ด้วยแล้ว
(3) ผู้เสนอราคาจะต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่กระบวนการเสนอราคา ตามวัน เวลา ที่กําหนด
(4) ห้ามผู้เสนอราคาถอนการเสนอราคา
(5) ผู้เสนอราคาต้องศึกษาและทําความเข้าใจในระบบและวิธีการเสนอราคาด้วยวิธ
ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลางที่แสดงไว้ในเว็บไซต์ ▇▇▇.▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇.▇▇.▇▇
5. หลักเกณฑ์และ▇▇▇▇▇ในการพิจารณา
5.1 ในการพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ สํานักงานฯ จะ พิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา และจะพิจารณาจากราคารวม
5.2 ในการพิจารณาผู้▇▇▇▇▇▇ยื่นข้อเสนอ สํานักงานฯ จะใช้หลักเกณฑ์การประเมินค่า ประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) โดยพิจารณาให้คะแนนตามปัจจัยหลักและน้ําหนักที่กําหนด ดังนี้
5.2.1 ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กําหนดน้ําหนักเท่ากับร้อยละ 40
5.2.2 การประเมินผู้ดําเนินงาน กําหนดน้ําหนักเท่ากับร้อยละ 30
5.2.3 คุณภาพและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่เสนอ กําหนดน้ําหนักเท่ากับร้อยละ 30 โดยกําหนดให้น้ําหนักรวมทั้งหมดเท่ากับร้อยละ 100
5.3 ในกรณี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇คัดเลือกผู้ดําเนินการที่มีคุณสมบัติและราคาที่เหมาะสมได้ สํานัก งานฯ ขอ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ที่จะยกเลิกการประกวดราคา ทั้งนี้ ผู้เสนอราคาจะเรียกร้องค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น▇▇▇▇▇▇
5.4 ในกรณีที่มีผู้ผ่านเกณฑ์เพียงรายเดียวให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการพิจารณา ▇▇▇▇▇▇▇ฯ ที่จะพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อราชการ โดยไม่จําเป็นต้องเป็น ผู้เสนอราคาต่ําสุด แต่ทั้งนี้จะต้องอยู่ในวงเงินงบประมาณ▇▇▇▇▇▇รับจัดสรร
5.5 หากผู้เสนอราคารายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามข้อ 2 หรือยื่นหลักฐานการยื่นข้อเสนอ ไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนตามข้อ 3 หรือยื่นข้อเสนอไม่ถูกต้องตามข้อ 4 แล้ว คณะกรรมการพิจารณาผลการ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะไม่รับพิจารณาราคาของผู้▇▇▇▇▇▇▇จะเสนอราคารายนั้น เว้นแต่เป็นข้อผิดพลาด หรือผิดหลงเพียงเล็กน้อย หรือผิดแผกไปจากเงื่อนไขของเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนที่มิใช่สาระ สําคัญ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่พิจารณาเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสํานักงานฯ เท่านั้น
5
ดังต่อไปนี้
5.6 สํานักงานฯ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ไม่พิจารณาข้อเสนอของผู้เสนอราคาโดยไม่มีการผ่อนผัน ในกรณี
(1) ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ผู้เสนอราคารายนั้นในบัญชีผู้รับเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ทางระบบการจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีรายชื่อผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ทาง ระบบการจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ของสํานักงานฯ
(2) ไม่กรอกชื่อนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา หรือลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ อย่างหนึ่ง อย่างใดหรือทั้งหมดในการเสนอราคาทางระบบการจัดซื้อ▇▇▇▇▇▇▇ด้วยอิเล็กทรอนิกส์
(3) เสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเงื่อนไขที่กําหนดในเอกสารประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นสาระสําคัญ หรือมีผลทําให้เกิดความได้▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇แก่ผู้เสนอราคารายอื่น
5.7 ในการตัดสินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือในการทําสัญญา คณะกรรมการ พิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือสํานักงานฯ มี▇▇▇▇▇ให้ผู้เสนอราคาชี้แจงข้อเท็จจริง สภาพ ฐานะ หรือข้อเท็จจริงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสนอราคาได้ สํานักงานฯ มี▇▇▇▇▇▇▇▇จะไม่รับข้อเสนอ ไม่รับราคาหรือไม่ทํา สัญญา หากหลักฐานดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง
5.8 สํานักงานฯ ทรงไว้ซึ่ง▇▇▇▇▇▇▇▇จะไม่รับราคาต่ําสุด หรือราคาหนึ่งราคาใด หรือราคาที่เสนอ ทั้งหมดก็ได้ และอาจพิจารณาเลือก▇▇▇▇ในจํานวน หรือขนาด หรือเฉพาะรายการหนึ่งรายการใด หรืออาจจะยกเลิก การประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่พิจารณา▇▇▇▇▇▇▇เลยก็ได้ สุดแต่จะพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทาง ราชการเป็นสําคัญ และให้▇▇▇▇▇▇การตัดสินของสํานักงานฯ เป็นเด็ดขาด ผู้เสนอราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ มิได้ รวมทั้งสํานักงานฯ จะพิจารณายกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และลงโทษผู้เสนอราคาเป็นผู้ทิ้งงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้เสนอราคา▇▇▇▇▇▇รับการคัดเลือกหรือไม่ก็ตาม หากมีเหตุที่เชื่อถือได้ว่าการยื่นเสนอราคากระทําการ โดยไม่▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇ การเสนอเอกสารอันเป็นเท็จ หรือใช้ชื่อบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นมาเสนอราคาแทน เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้เสนอราคารายที่เสนอราคาต่ําสุด เสนอราคาต่ําจนคาดหมายได้ว่า▇▇▇▇▇▇ ดําเนินงาน▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือสํานักงานฯจะให้ ผู้เสนอราคานั้นชี้แจงและแสดงหลักฐานที่ทําให้เชื่อได้ว่าผู้เสนอราคา▇▇▇▇▇▇ดําเนินงานตามการประกวดราคา▇▇▇▇ อิเล็กทรอนิกส์ให้เสร็จ▇▇▇▇▇▇▇ หากคํา▇▇▇▇▇▇▇▇▇เป็นที่รับฟังได้ สํานักงานฯ มี▇▇▇▇▇▇▇▇จะไม่รับข้อเสนอหรือไม่รับ ราคาของผู้เสนอราคารายนั้น
5.9 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังจากการพิจารณาข้อเสนอว่า ผู้เสนอราคาที่มี▇▇▇▇▇ ▇▇▇รับการคัดเลือกเป็นผู้เสนอราคาที่มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ร่วมกันกับผู้สนอราคารายอื่น ณ วันประกาศประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ หรือเป็นผู้เสนอราคาที่กระทําการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามข้อ 1.5 สํานักงานฯ มีอํานาจที่จะตัดรายชื่อผู้เสนอราคา▇▇▇▇▇▇รับการคัดเลือกรายดังกล่าวออก และสํานักงานฯ จะพิจารณา ลงโทษผู้เสนอราคารายนั้นเป็นผู้ทิ้งงาน
ในกรณีนี้หากปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นว่าการยกเลิกการพิจารณาผลการเสนอราคา▇▇▇ ▇▇▇ดําเนินการไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง ปลัดกระทรวงมีอํานาจยกเลิกการพิจารณาผลการ เสนอราคาดังกล่าวได้
6
6. การทํา▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ผู้▇▇▇▇▇▇ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะต้องทําสัญญา▇▇▇▇ตามแบบสัญญาดังระบุในข้อ 1.3 กับสํานักงานฯ ภายใน 7 วัน นับถัดจาก▇▇▇▇▇▇ได้รับแจ้ง และจะต้องวางหลักประกันสัญญาเป็นจํานวนเงินเท่ากับ ร้อยละ 5 ของราคาค่า▇▇▇▇▇▇▇ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้สํานักงานฯ ยึดถือไว้ในขณะทําสัญญา โดยใช้ หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(1) เงินสด
(2) เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้แก่สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ โดยเป็นเช็คลง▇▇▇▇▇▇ที่ทําสัญญาหรือก่อนหน้านั้นไม่เกิน 3 วันทําการของทางราชการ
(3) หนังสือค้ําประกันของธนาคารภายในประเทศ ตามแบบหนังสือค้ําประกันดังระบุใน
ข้อ 1.4 (2)
(4) หนังสือค้ําประกันของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษัทเงินทุน
หรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์▇▇▇▇▇▇รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจค้ําประกัน ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามรายชื่อบริษัทเงินทุนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งเวียนให้ส่วน ราชการต่างๆ ทราบแล้ว โดยอนุโลมให้ใช้ตามตัวอย่างหนังสือค้ําประกันของธนาคารที่ กวพ. กําหนด
(5) พันธบัตรรัฐบาลไทย
หลักประกันนี้จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน 15 วัน นับถัดจาก▇▇▇▇▇▇ผู้▇▇▇▇▇▇ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (ผู้รับจ้าง) พ้นจากข้อ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇แล้ว
7. ค่า▇▇▇▇และการจ่ายเงิน
สํานักงานฯ จะชําระเงินค่า▇▇▇▇ตามจํานวนที่กําหนดในสัญญา▇▇▇▇หลังจากผู้รับจ้างปฏิบัติงาน ครบถ้วนตามที่สํานักงานฯ กําหนด และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับงานเรียบร้อยแล้ว
8. อัตราค่าปรับ
ค่าปรับตามแบบสัญญา▇▇▇▇ข้อ 17 จะกําหนดในอัตราร้อยละ 0.10 ของค่า▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ต่อวัน
9. การรับประกันความชํารุดบกพร่อง
ผู้▇▇▇▇▇▇ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้ทําข้อตกลงเป็นหนังสือ หรือทําสัญญา▇▇▇▇ตามแบบ
ดังระบุในข้อ 1.3 แล้วแต่กรณี จะต้องรับประกันความชํารุดบกพร่องของงาน▇▇▇▇▇▇▇เกิดขึ้นภายในระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถัดจาก▇▇▇▇▇▇สํานักงานฯ ได้รับมอบงาน โดยผู้รับจ้างต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การ ▇▇▇▇▇ดังเดิมภายใน 3 วัน นับถัดจาก▇▇▇▇▇▇ได้รับแจ้งความชํารุดบกพร่อง
10. ข้อ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ในการเสนอราคาและอื่นๆ
10.1 เงินค่า▇▇▇▇สําหรับการ▇▇▇▇ครั้งนี้ได้มาจากเงินงบประมาณประจําปี 2558 การลงนามในสัญญาจะกระทําได้ต่อเมื่อสํานักงานฯ ได้รับอนุมัติเงินจากสํานักงบประมาณ
แล้วเท่านั้น
7
10.2 เมื่อสํานักงานฯ ได้คัดเลือกผู้เสนอราคารายใดให้เป็นผู้รับจ้าง และได้ตกลง▇▇▇▇ตาม▇▇▇ ▇▇▇ประกวดราคาโดยการยื่นข้อเสนอทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ถ้าผู้รับจ้างจะต้องสั่งหรือนําสิ่งของมาเพื่องาน▇▇▇▇ ดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศ และของนั้นต้องนําเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางที่มีเรือไทยเดินอยู่ และ▇▇▇▇▇▇ ให้บริการรับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกําหนด ผู้เสนอราคาซึ่งเป็นผู้รับจ้างจะต้อง ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการ▇▇▇▇▇▇▇▇การพาณิชย▇▇▇▇ ดังนี้
(1) แจ้งการสั่งหรือนําสิ่งของดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศต่อกรมเจ้าท่าภายใน 7 วัน นับตั้งแต่▇▇▇▇▇▇ผู้รับจ้างสั่งหรือซื้อของจากต่างประเทศ เว้นแต่เป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศ ยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้
(2) จัดการให้สิ่งของดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇เดียวกับเรือไทย จากต่างประเทศ▇▇▇▇▇ประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าให้บรรทุกสิ่งของนั้นโดยเรืออื่นที่มิใช่ เรือไทย ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาต▇▇▇▇นั้นก่อนบรรทุกของลงเรืออื่น หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่น
(3) ในกรณี▇▇▇▇▇▇ปฏิบัติตาม (1) หรือ (2) ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดตามกฎหมายว่าด้วย การ▇▇▇▇▇▇▇▇การพาณิชย▇▇▇▇
10.3 ผู้เสนอราคาซึ่งสํานักงานฯ ได้คัดเลือกแล้ว ไม่ไปทําสัญญา หรือข้อตกลงภายในเวลา ที่ทางราชการกําหนดดังระบุไว้ในข้อ 7 สํานักงานฯ จะริบหลักประกันการยื่นข้อเสนอ หรือเรียกร้องจากผู้ออก หนังสือค้ําประกันการยื่นข้อเสนอทันที และอาจพิจารณาเรียกร้องให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะ พิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตาม▇▇▇▇▇▇▇ของทางราชการ
10.4 สํานักงานฯ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขหรือข้อกําหนดในแบบสัญญาให้เป็นไป ตามความเห็นของสํานักงาน▇▇▇▇▇▇สูงสุด (ถ้ามี)
สํานักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
8 กันยายน 2558
เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาข้อ 1.1
รายละเอียดขอบเขตการดําเนินงาน และคุณสมบัติเฉพาะสายใยแก้วนําแสง (Fiber Optic) พร้อมอุปกรณ์
1. ขอบเขตการดําเนินงาน เดินสายเชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์จากห้อง Data Center ไป ยังอาคาร 2 และ อาคาร 3 โดยเดินสายใยแก้วนําแสงแบบ Single Mode ขนาด 12 cores จํานวน 2 เส้นทาง ซึ่งประกอบด้วยการเดินสายเชื่อมโยงจากห้อง Data Center ไปยังอาคาร 2 จํานวน 1 เส้นทาง และ เดินสายเชื่อมโยงไปยังอาคาร 3 จํานวน 1 เส้นทาง และจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ สายใยแก้วนําแสง, หัวต่อสาย สาย Patch Cord และอื่นๆ ที่จําเป็นให้ครบถ้วนต่อการใช้งาน โดยมีรายละเอียดการ ดําเนินงานดังนี้
1.1 เส้นทางที่ 1. เดินสายใยแก้วนําแสงแบบ Single Mode ขนาด 12 Cores เชื่อมต่อจาก
ห้อง Data Center (อาคาร 1 ชั้น 4) ไปยังอาคาร 2 ชั้น 5 และเดินสายใยแก้วนําแสงขนาด 6 Cores
จากอาคาร 2 ชั้น 5 กระจายไปจุดติดตั้งตู้ Rack ของแต่ละชั้นภายในอาคาร 2 ทุกชั้น
1.2 เส้นทางที่ 2. เดินสายใยแก้วนําแสงแบบ Single Mode ขนาด 12 Cores เชื่อมต่อจาก ห้อง Data Center (อาคาร 1 ชั้น 4) ไปยัง อาคาร 3 ชั้น 5 และเดินสายใยแก้วนําแสงขนาด 6 Cores จากอาคาร 3 ชั้น 5 กระจายไปจุดติดตั้งตู้ Rack ของแต่ละชั้นภายในอาคาร 3 ทุกชั้น โดยจะต้องจัดหาตู้ Rack ชนิด Wall type ขนาดความลึกไม่น้อยกว่า 60 ซม. ของแต่ละชั้นให้ด้วย
2. คุณสมบัติเฉพาะของสายใยแก้วนําแสง (Fiber Optic) และอุปกรณ์
2.1 สายใยแก้วนําแสง (Fiber Optic) ขนาด 12 Cores
2.1.1 สายใยแก้วเป็นสายแบบ Single Mode ชนิดติดตั้งภายนอกอาคาร (Indoor)
2.1.2 ขนาดเนื้อแก้วแบบ 9/125 ไมโครเมตร
2.1.3 สายใยแก้วมี GEL เพื่อป้องกันการซึมของน้ํา สายเป็นฉนวนทั้งหมด
2.1.4 ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน TIA/EIA 568-C และ BELLCORE GR-20-CORE
2.1.5 เปลือกสายใยแก้วทําจาก POLYETHYLENE
2.1.6 มีขนาดของแกนสายใยแก้วนําแสงขนาด 12 แกน (12 Cores)
2.1.7 วัสดุที่ใช้ในการร้อยสายใยแก้วเป็นท่อโลหะแข็ง (IMC)
2.1.8 การเชื่อมโยงสายใยแก้วนําแสงจะต้องมีการเชื่อมโยงสายอย่างดีและถูกต้องตาม หลักการเดินสายนําสัญญาณใยแก้วนําแสง
2.1.9 สายใยแก้วนําแสงมีการออกแบบและทดสอบคุณสมบัติตามมาตรฐาน GR-20
2
2.1.10 หัวต่อของสายใยแก้วนําแสง (Connector) ประกอบด้วย
• หัวต่อสายใยแก้วนําแสงเป็นชนิด ST-Connector แบบ Single Mode
• ต้องทําการเข้าหัวแบบ Fusion Splice
• หัวต่อสายใยแก้วนําแสงเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน (ยี่ห้อเดียวกัน) กับสายใยแก้ว นําแสง
• สายใยแก้วต้องใส่ในถาด Fiber Rack Mount
2.1.11 สายใยแก้วนําแสงที่ใช้ในการเดินสายเชื่อมโยงระบบเครือข่ายในครั้งนี้ผู้รับจ้างหรือ ผู้ดําเนินงานจะต้องมี
• หนังสือรับรองจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง หรือ
• หนังสือรับรองจากตัวแทนจําหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น โดยตัวแทนจะต้องได้รับการ แต่งตั้งจากเจ้าของ ผลิตภัณฑ์นั้นด้วย
2.1.12 ผู้ดําเนินงานจะต้องรับประกันสายใยแก้วนําแสง หลังการติดตั้งเป็นระยะเวลาไม่ น้อยกว่า 2 ปี โดย
• หากเกิดจากตัวสายใยแก้วนําแสง มีปัญหา เช่น หักหรือชํารุด
• สายใยแก้วนําแสง ที่เชื่อมต่อสื่อสารข้อมูลได้ไม่สมบูรณ์
2.2 สายใยแก้วนําแสง (Fiber Optic) ชนิด 6 Cores
2.2.1 สายใยแก้วนําแสงเป็นแบบ Single Mode ชนิดติดตั้งภายในอาคาร (Indoor)
2.2.2 ขนาดเนื้อแก้วแบบ 9/125 ไมโครเมตร
2.2.3 สายใยแก้วมี GEL เพื่อป้องกันการซึมของน้ํา สายเป็นฉนวนทั้งหมด
2.2.4 ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน TIA/EIA 568-C และ BELLCORE GR-20-CORE
2.2.5 เปลือกสายใยแก้วทําจาก POLYETHYLENE
2.2.6 มีขนาดของแกนสายใยแก้วนําแสงขนาด 6 แกน (6 Cores)
2.2.7 วัสดุที่ใช้ในการร้อยสายใยแก้วเป็นท่อโลหะแข็ง (IMC)
2.2.8 การเชื่อมโยงสายใยแก้วนําแสงจะต้องมีการเชื่อมโยงสายอย่างดีและถูกต้องตาม หลักการเดินสายนําสัญญาณใยแก้วนําแสง
2.2.9 สายใยแก้วนําแสงมีการออกแบบและทดสอบคุณสมบัติตามมาตรฐาน GR-20
2.2.10 หัวต่อของสายใยแก้วนําแสง (Connector) ประกอบด้วย
• หัวต่อสายใยแก้วนําแสงเป็นชนิด ST-Connector แบบ Single Mode
• ต้องทําการเข้าหัวแบบ Fusion Splice
• หัวต่อสายใยแก้วนําแสงเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน (ยี่ห้อเดียวกัน) กับสายใยแก้ว นําแสง
• สายใยแก้วต้องใส่ในถาด Fiber Rack Mount
3
2.2.11 สายใยแก้วนําแสงที่ใช้ในการเดินสายเชื่อมโยงระบบเครือข่ายในครั้งนี้ผู้รับจ้างหรือ ผู้ดําเนินงาน จะต้องมี
• หนังสือรับรองจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง หรือ
• หนังสือรับรองจากตัวแทนจําหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น โดยตัวแทนจะต้องได้รับการ แต่งตั้งจากเจ้าของ ผลิตภัณฑ์นั้นด้วย
2.2.12 ผู้ดําเนินงานจะต้องรับประกันสายใยแก้วนําแสง หลังการติดตั้งเป็นระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 2 ปี โดย
• หากเกิดจากตัวสายใยแก้วนําแสง มีปัญหา เช่น หักหรือชํารุด
• สายใยแก้วนําแสง ที่เชื่อมต่อสื่อสารข้อมูลได้ไม่สมบูรณ์
2.3 ตู้ Rack ชนิด Wall Type จํานวน 5 ตู้
2.3.1 ความกว้างขนาด 19 นิ้ว
2.3.2 ความลึกขนาดไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
2.3.3 ความสูงขนาด 12 U
2.3.4 ปลั๊กไฟรางชนิดใช้กับตู้ Rack ขนาดไม่น้อยกว่า 6 ช่อง
2.3.5 พัดลมระบายอากาศไม่น้อยกว่า 1 ชุด
รูปที่ 1. แผนผังการเดินสาย Fiber Optic เชื่อมโยงอาคาร 2
Fiber Optic Cable (Single Mode)
F4
Room
IDC
F1
F2
F3
F5
6 Core
6 Core
12 Core
6 Core
6 Core
อาคาร 1 อาคาร 2
F5 ผบู้ ริหาร |
F4 ผบู้ ริหาร |
F3 ผบู้ ริหาร |
F2 คลงั /ฝจท |
F1 ปชส/เอนกประสงค์ |
รูปที่ 2. แผนภาพการเดินสาย Fiber Optic เชื่อมโยงอาคาร 3
อาคาร 3
F6 |
F5 สขส. |
F4 |
F3 หอ้ งท่าน ลศช. |
F2 สสค. |
F1 หองอาหาร |
Fiber Optic Cable (Single Mode)
6 Core
6 Core
12 Core
6 Core
อาคาร 1
F4
Room
IDC
F1
F2
F3
F5
6 Core
วา่ ง
วา่ ง
วา่ ง
วา่ ง
Access Switch |
ช้ัน6
ช้ัน5
ช้ัน4
ช้ัน3
ช้ัน2
ช้ัน1
Access Switch
Access Switch
Access Switch
วา่ ง
วา่ ง
วา่ ง
อาคาร 1 ชั้น 4
อาคาร 2
Access Switch
รูปที่ 3. รายละเอียดสาย Fiber Optic เชื่อมโยงไปอาคาร 2
Fiber Optic Cable (Single Mode)
วา่ ง
วา่ ง
วา่ ง
วา่ ง
ช้ัน6
ช้ัน5
ช้ัน4
ช้ัน3
ช้ัน2
ช้ัน1
หองอาหาร
Access Switch
Access Switch
Access Switch
วา่ ง
วา่ ง
วา่ ง
อาคาร 1 ชั้น 4
อาคาร 3
Access Switch
รูปที่ 4. รายละเอียดสาย Fiber Optic เชื่อมโยงอาคาร 3
Fiber Optic Cable (Single Mode)
เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาข้อ 1.2
ใบเสนอราคาจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e – bidding)
เรียน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
1. ข้าพเจ้า (บริษัท, ห้าง)................................................................................................. อยู่เลขที่............................ ถนน......................................... ตําบล/แขวง..........................................
อําเภอ/เขต....................................... จังหวัด....................................... โทรศัพท์............................................... โดย...................................................................................................................................
ผู้ลงนามข้างท้ายนี้ ได้พิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารเพิ่มเติม (ถ้ามี) เลขที่...........................โดยตลอดและยอมรับข้อกําหนดและเงื่อนไขนั้นแล้ว รวมทั้ง รับรองว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กําหนด และไม่เป็นผู้ทิ้งงานของทางราชการ
2. ข้าพเจ้าขอเสนอรายการราคาค่าจ้าง ซึ่งกําหนดไว้ในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ตามราคาและกําหนดเวลาส่งมอบ ดังต่อไปนี้
ที่ | รายการ | ราคาค่าจ้าง (ไม่รวมภาษี) | ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% | จํานวน | รวมเป็นเงิน (ทั้งรายการรวม VAT) | กําหนดส่งมอบ |
จ้างเดินสาย Fiber optic เชื่อมโยงจากห้อง Data center ไปยัง อาคาร 2 และ 3 (ตามรายละเอียดการจ้างเดินสาย Fiber optic เชื่อมโยงจากห้อง Data center ไปยังอาคาร 2 และ 3 แนบท้ายเอกสารประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ /2558 ลงวันที่ กันยายน 2558) | .................................. | .............................. | 1 งาน | ............................ | ภายใน 90 วัน นับถัดจาก วันลงนามในสัญญา | |
ราคารวมทั้งสิ้น (บาท) | ||||||
(.............................................................................................................................................................) ซึ่งเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งภาษีอากรอื่น และค่าใช้จ่ายทั้งปวงไว้ด้วยแล้ว
- ๒ –
3. คําเสนอนี้จะยืนอยู่เป็นระยะเวลา...............วัน นับแต่วันเสนอราคา และสํานักงานฯ อาจรับคําเสนอนี้ ณ เวลาใดก็ได้ก่อนที่จะครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว หรือระยะเวลาที่ได้ยืดออกไปตาม เหตุผลอันสมควรที่สํานักงานฯ ร้องขอ
4. กําหนดเวลาส่งมอบ ข้าพเจ้ารับรองที่จะส่งมอบงานตามเงื่อนไขที่เอกสารประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์กําหนดไว้
5. ในกรณีที่ข้าพเจ้าได้รับพิจารณาให้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้าพเจ้ารับรองที่จะ
5.1 ทําสัญญาตามแบบสัญญาจ้างแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ กับสํานักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายใน 7 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับหนังสือให้ไปทําสัญญา
5.2 มอบหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาตามที่ระบุไว้ในข้อ 6 ของเอกสารประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่สํานักงานฯ ก่อนหรือในขณะที่ได้ลงนามในสัญญา เป็นจํานวนร้อยละ 5 ของราคาตาม สัญญาที่ได้ระบุไว้ในใบเสนอราคานี้ เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาโดยถูกต้องและครบถ้วน
หากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติให้ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ข้างต้นนี้ ข้าพเจ้ายอมให้สํานักงานฯ เรียกร้อง จากผู้ออกหนังสือค้ําประกัน รวมทั้งยินดีชดใช้ค่าเสียหายใดที่อาจมีแก่สํานักงานฯ และสํานักงานฯ มีสิทธิให้ ผู้เสนอราคารายอื่นเป็นผู้ประกวดราคาได้ หรือสํานักงานฯ อาจเรียกประกวดราคาใหม่ก็ได้
6. ข้าพเจ้ายอมรับว่าสํานักงานฯ ไม่มีความผูกพันที่จะรับคําเสนอนี้ หรือใบเสนอราคาใด ๆ รวมทั้งไม่ต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายใด ๆ อันอาจเกิดขึ้นในการที่ข้าพเจ้าได้เข้าเสนอราคา
7. ข้าพเจ้าได้ตรวจทานตัวเลขและตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่ได้ยื่นพร้อมใบเสนอราคานี้โดยละเอียดแล้ว และเข้าใจดีว่าสํานักงานฯ ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ในความผิดพลาด หรือตกหล่น
8. ใบเสนอราคานี้ได้ยื่นเสนอโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม และปราศจากกลฉ้อฉล หรือการสมรู้ร่วมคิดกัน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายบุคคล หรือกับห้างหุ้นส่วน บริษัทใด ๆ ที่ได้ยื่นเสนอราคา ในคราวเดียวกัน
เสนอมา ณ วันที่...........เดือน........................... พ.ศ. ...............
ลงชื่อ...........................................................
(........................................................)
ตําแหน่ง......................................................
ประทับตรา (ถ้ามี)
เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาข้อ 1.3
แบบสัญญาจ้างทั่วไป
สัญญาเลขที่…………………..………
สัญญาฉบับนี้ทําขึ้น ณ………………..…………………..……....ตําบล/แขวง…………………..……………………..….
อําเภอ/เขต………………….…….…..จังหวัด…….……………………..…..…….เมื่อวันที่………..……..……เดือน……………………..
พ.ศ……………ระหว่าง…………………………………..โดย………...………………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง กับ…………………..……….ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ มีสํานักงานใหญ่อยู่เลขที่
……….……ถนน………………………..ตําบล/แขวง…….………..…………..….…....อําเภอ/เขต………………………………..…….
จังหวัด………..…………….โดย ผู้มีอํานาจลงนามผูกพันนิติบุคคลปรากฏตามหนังสือรับรอง
ของสํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท………….…..ลงวันที่…..….…… (และหนังสือมอบอํานาจลงวันที่ ……………..) * แนบท้ายสัญญานี้ (ในกรณีที่ผู้รับจ้างเป็นบุคคลธรรมดาให้ใช้ข้อความว่ากับ ………..………. อยู่บ้านเลขที่ ………..….
ถนน…………………...……ตําบล/แขวง……..……………………….อําเภอ/เขต……………..…..จังหวัด )*
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาได้ตกลงกันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อตกลงว่าจ้าง
ผู้ว่าตกลงจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทํางาน….………………………….….………………….…………………
ณ…..……………................. ตําบล/แขวง….…………………….…….…….. อําเภอ/เขต …………..………………..…………
จังหวัด ตามข้อกําหนดและเงื่อนไขสัญญานี้รวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา
ผู้รับจ้างตกลงที่จะจัดหาแรงงานและวัสดุ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ชนิดดีเพื่อใช้ ในงานจ้างตามสัญญานี้
ข้อ 2. เอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
เอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
2.1 ผนวก 1.…………………(แบบรูป)………………จํานวน หน้า
2.2 ผนวก 2……………...(รายการละเอียด)…………..จํานวน หน้า
2.3 ผนวก 3………(ใบจ้างปริมาณงานและราคา)……..จํานวน หน้า
2.4 ผนวก 4………………(ใบเสนอราคา)…………….จํานวน หน้า
2.5 …………………………….ฯลฯ………………………….
ความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญาที่ขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ และใน กรณีที่เอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกันเอง ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของผู้ว่าจ้าง
หมายเหตุ * ตดออกหรือใสไ่ ว้ตามความเหมาะสม
ข้อ 3. หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา
ในขณะทําสัญญานี้ผู้รับจ้างได้นําหลักประกันเป็น……………………………………..……......................…
เป็นจํานวนเงิน…………………บาท (…………….………….) มามอบให้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตาม สัญญานี้
หลักประกันที่ผู้รับจ้างนํามามอบไว้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้างพ้นจากข้อผูกพัน ตามสัญญานี้แล้ว
ข้อ 4. ก. ค่าจ้างและการจ่ายเงิน
(สําหรับสัญญาที่เป็นราคาต่อหน่วย) ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายและผู้รับจ้างตกลงรับเงินค่าจ้างเป็นจํานวนเงิน บาท
(…………………………….…..) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจํานวน บาท ตลอดจนภาษีอากรอื่น ๆ และค่าใช้จ่าย
ทั้งปวงด้วยแล้ว โดยถือราคาต่อหน่วยเป็นเกณฑ์ตามรายการแต่ละประเภทดังที่ได้กําหนดไว้ในใบแจ้งปริมาณงาน และราคา
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างตกลงว่าจํานวนปริมาณงานที่กําหนดไว้ ในบัญชีรายการก่อสร้างหรือใบ แจ้งปริมาณงานและราคานี้เป็นจํานวนโดยประมาณเท่านั้น จํานวนปริมาณงานที่แท้จริงอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ก็ได้ ซึ่งผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างตามราคาต่อหน่วยของงานแต่ละรายการที่ได้ทําเสร็จจริง คู่สัญญา ทั้งสองฝ่ายต่างตกลงที่จะไม่เปลี่ยนแปลงราคาต่อหน่วยหรือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจาก การที่จํานวน ปริมาณงานในแต่ละรายการได้แตกต่างไปจากที่กําหนดไว้ในสัญญา ทั้งนี้ นอกจากในกรณีต่อไปนี้*
4.1 เมื่อปริมาณงานที่ทําเสร็จจริงในส่วนที่เกินกว่าร้อยละ125 (หนึ่งร้อยยี่สิบห้า) แต่ไม่เกิน ร้อยละ 150 (หนึ่งร้อยห้าสิบ) ของปริมาณงานที่กําหนดไว้ในสัญญาหรือใบแจ้งปริมาณงาน และราคาจะจ่ายให้ใน อัตราร้อยละ 90 (เก้าสิบ) ของราคาต่อหน่วยตามสัญญา
4.2 เมื่อปริมาณงาน ที่ทําเสร็จจริงในส่วนที่เกินกว่า ร้อยละ 150 (หนึ่งร้อยห้าสิบ) ของปริมาณ งานที่กําหนดไว้ในสัญญาหรือใบแจ้งปริมาณงานและราคาจะจ่ายให้ในอัตราร้อยละ 83 (แปดสิบสาม) ของราคา ต่อหน่วยตามสัญญา
4.3 เมื่อปริมาณงานที่ทําเสร็จจริงน้อยกว่าร้อยละ 75 (เจ็ดสิบห้า) ของปริมาณงานที่กําหนดไว้ใน สัญญาหรือใบแจ้งปริมาณงาน และราคาจะจ่ายให้ตามราคาต่อหน่วยในสัญญาและจะจ่ายเพิ่มชดเชย เป็นค่า overhead และ mobilization สําหรับงานรายการ นั้นในอัตราร้อยละ 17 (สิบเจ็ด) ของผลต่างระหว่างปริมาณ งานทั้งหมดของงานรายการนั้นตามสัญญาโดยประมาณกับปริมาณ งานที่ทําเสร็จจริงคูณด้วยราคาต่อหน่วยตาม สัญญา
4.4 ผู้ว่าจ้าง จะจ่ายเงินที่เพิ่มขึ้น หรือหักลดเงินในแต่ละกรณีดังกล่าวข้างต้นในงวดสุดท้าย ของการ จ่ายเงินหรือก่อนงวดสุดท้ายของการจ่ายเงินตามที่ผู้ว่าจ้างจะพิจารณาเห็นสมควร
ผู้ว่าจ้างตกลงที่จะจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างเป็นรายเดือนตามเนื้องานที่ทําเสร็จจริงเมื่อ ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างได้ทําการตรวจสอบผลงานที่ทําเสร็จแล้ว และปรากฏว่าเป็นที่พอใจตรงตาม ข้อกําหนดแห่งสัญญานี้ทุกประการ ผู้ว่าจ้างจะออกหนังสือรับรองการรับมอบงานนั้นให้ไว้แก่ผู้รับจ้าง
หมายเหตุ * อต
ราร้อยละที่ระบไุ ว้ตอ
ไปนี ้อาจพิจารณาแก้ไขได้ตามความเหมาะสม
การจ่ายเงินงวดสุดท้ายจะจ่ายให้เมื่องานทั้งหมดตามสัญญาได้แล้วเสร็จทุกประการรวมทั้งการทํา สถานที่ก่อสร้างให้สะอาดเรียบร้อยตามที่กําหนดไว้ ในข้อ 20
ข้อ 4. ข. ค่าจ้างและการจ่ายเงิน
(สําหรับสัญญาที่เป็นราคาเหมารวม) ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายและผู้รับจ้างตกลงรับเงินค่าจ้างจํานวนเงิน บาท
(………………………………………….…) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จํานวน บาท ตลอดจนภาษีอากรอื่น ๆ
และค่าใช้จ่ายทั้งปวงด้วยแล้ว โดยถือราคาเหมารวม เป็นเกณฑ์ และกําหนดการจ่ายเงิน เป็นงวด ๆ ดังนี้
งวดที่ 1 เป็นจํานวนเงิน………………………..บาท (… ) เมื่อผู้รับจ้าง
ได้ปฏิบัติงาน………………ให้แล้วเสร็จภายใน………………………………………………
งวดที่ 2 เป็นจํานวนเงิน……………………….บาท (… เมื่อผู้รับจ้าง
ได้ปฏิบัติงาน………………ให้แล้วเสร็จภายใน ฯลฯ
งวดสุดท้าย เป็นจํานวนเงิน……..………...บาท (………………………….........……..) เมื่อผู้รับจ้าง ได้ปฏิบัติงานทั้งหมดให้แล้วเสร็จเรียบร้อยตามสัญญา รวมทั้งทําสถานที่ก่อสร้างให้สะอาดเรียบร้อยตามที่กําหนด ไว้ ในข้อ 20
การจ่ายเงินตามเงื่อนไขแห่งสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้รับจ้าง ชื่อธนาคาร………………….สาขา…………..ชื่อบัญชี…………………เลขที่บัญชี…………………ทั้งนี้ ผู้รับจ้างตกลงเป็นผู้รับ ภาระเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่นใดเกี่ยวกับการโอนที่ธนาคารเรียกเก็บ และยินยอมให้มีการหักเงินดังกล่าว จากจํานวนเงินโอนในงวดนั้น ๆ (ความในวรรคนี้ใช้สําหรับกรณีที่ส่วนราชการจะจ่ายเงินตรงให้แก่ผู้รับจ้าง (ระบบ Direct Payment) โดยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้รับจ้าง ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกําหนด)
. *ข้อ 5. เงินค่าจ้างล่วงหน้า
ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายเงินค้าจ้างล่วงหน้าให้แก่ผู้รับจ้าง เป็นจํานวนเงิน บาท
(……………………………….…..……) ซึ่งเท่ากับร้อยละ ของราคาค่าจ้าง ตามสัญญาที่ระบุไว้ ในข้อ 4
เงินจํานวนดังกล่าวจะจ่ายให้ภายหลังจากที่ผู้รับจ้างได้วางหลักประกันการรับเงินค่าจ้างล่วงหน้า เต็มตามจํานวนเงินค่าจ้างล่วงหน้านั้น ให้แก่ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องออกใบเสร็จรับเงินค่าจ้างล่วงหน้าตามแบบที่ ผู้ว่าจ้างกําหนดให้และผู้รับจ้างตกลงที่จะกระทําตามเงื่อนไขอันเกี่ยวกับการใช้จ่าย และการใช้คืนเงินค่าจ้าง ล่วงหน้านั้น ดังต่อไปนี้
5.1 ผู้รับจ้างจะใช้เงินค่าจ้างล่วงหน้านั้นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานตามสัญญาเท่านั้น หากผู้รับจ้างใช้จ่ายเงินค่าจ้างล่วงหน้า หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของเงินค่าจ้างล่วงหน้านั้นในทางอื่น ผู้ว่าจ้างอาจจะ เรียกเงินค่าจ้างล่วงหน้าคืนจากผู้รับจ้างหรือบังคับแก่หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาได้ทันที
5.2 เมื่อผู้ว่าจ้างเรียกร้อง ผู้รับจ้างต้องแสดงหลักฐานการใช้จ่ายเงินค่าจ้างล่วงหน้า เพื่อพิสูจน์ ว่าได้เป็นไปตามข้อ 5.1 ภายในกําหนด 15 วัน นับถัดจากวันได้รับแจ้งจากผู้ว่าจ้าง หากผู้รับจ้างไม่อาจแสดงหลักฐาน ดังกล่าว ภายในกําหนด 15 วัน ผู้ว่าจ้างอาจเรียกเงินค่าจ้างล่วงหน้าคืนจากผู้รับจ้างหรือบังคับแก่ หลักประกันการ รับเงินค่าจ้างล่วงหน้า ได้ทันที
* 5.3 (สําหรับสัญญาที่เป็นราคาต่อหน่วย)
ในการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างตามข้อ 4 ก. ผู้ว่าจะหักเงินค่าจ้างในแต่ละเดือนไว้จํานวน ทั้งหมด* ทั้งนี้ จนกว่าจํานวนเงินที่หักไว้จะครบตามจํานวน เงินค่าจ้างล่วงหน้าที่ผู้รับจ้างได้รับไปแล้ว
5.4 เงินจํานวนใด ๆ ก็ตามที่ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อชําระหนี้หรือเพื่อชดใช้ความ รับผิดต่าง ๆ ตามสัญญา ผู้ว่าจ้าง จะหักเอาจากเงินค่าจ้างงวดที่จะจ่ายให้แก่ผู้รับจ้าง ก่อนที่จะหักชดใช้คืนเงิน ค่าจ้างล่วงหน้า
5.5 ในกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญา หากเงินค่าจ้างล่วงหน้าที่เหลือเกินกว่าจํานวนเงินที่ผู้รับจ้าง จะได้รับหลังจากหักชดใช้ในกรณีอื่นแล้วผู้รับจ้างจะต้องจ่ายคืนเงินจํานวนที่เหลือนั้นให้แก่ผู้ว่าจ้าง ภายใน 7 วัน นับถัดจากวัน ได้รับแจ้ง เป็นหนังสือ จากผู้ว่าจ้าง
5.5 ก. (สําหรับสัญญาที่เป็นราคาต่อหน่วย) ผู้ว่าจ้างจะคืนหลักประกันเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้รับจ้าง ต่อเมื่อผู้ว่าจ้างได้หักเงินค่าจ้างไว้ครบ
จํานวนเงินล่วงหน้า ตาม 5.3
5.5 ข. (สําหรับสัญญาที่เป็นราคาเหมารวม) ผู้ว่าจ้างจะคืนหลักประกันเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้รับจ้าง**……………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
*** ข้อ 6. การหักเงินประกันผลงาน
ในการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างแต่ละงวด ผู้ว่าจ้างจะหักเงินจํานวนร้อยละ 10 ของเงินที่ต้องจ่าย ใน งวดนั้น เพื่อเป็นประกันผลงาน ในกรณีที่ เงินประกันผลงานจะต้องถูกหักไว้ทั้งสิ้นไม่ต่ํากว่า 6 เดือน (สําหรับ สัญญาที่เป็นราคาต่อหน่วย) หรือจํานวน บาท (สําหรับสัญญาที่เป็นราคาเหมารวม) ผู้มีรับจ้างมีสิทธิที่
จะขอเงินประกันผลงานคืนโดยผู้รับจ้างจะต้องวางหนังสือค้ําประกันของธนาคารซึ่งออกโดยธนาคารภายในประเทศ มาวางไว้ต่อผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นหลักประกันแทนก็ได้
ผู้ว่าจ้างจะคืนเงินประกันผลงาน และ/หรือหนังสือค้ําประกันของธนาคารดังกล่าว ตามวรรคหนึ่ง ให้แก่ผู้รับจ้างพร้อมกับการจ่ายเงินงวดสุดท้าย
ข้อ 7 ก. กําหนดเวลาแล้วเสร็จและสิทธิของผู้ว่าจ้างในการบอกเลิกสัญญา
ภายในกําหนด…………..วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องเสนอแผนงานให้เป็นที่ พอใจแก่ผู้ว่าจ้าง โดยแสดงถึงขั้นตอนของการทํางานและกําหนดเวลาที่ต้องใช้ในการทํางานหลักต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จ***
ผู้รับจ้างต้องเริ่มทํางานที่รับจ้างภายในกําหนด วัน นับถัดจากวันได้รับหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน
และจะต้องทํางานให้แล้วเสร็จภายในกําหนด วัน นับถัดจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าวนั้น
ถ้ามิได้เสนอแผนงาน หรือไม่สามารถทํางานให้แล้วเสร็จตามกําหนดเวลาหรือจะแล้วเสร็จล่าช้าเกินกว่า กําหนดเวลา หรือผู้รับจ้างทําผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือตกเป็นผู้ล้มละลาย หรือเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคําสั่ง ของ คณะกรรมการตรวจการจ้าง หรือผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งได้รับมอบอํานาจจากผู้ว่าจ้างผู้ว่าจ้าง มีสิทธิ ที่จะบอกเลิกสัญญานี้ได้ และมีสิทธิจ้างผู้รับจ้างรายใหม่เข้าทํางานของผู้รับจ้างให้ลุล่วงไปได้ด้วย
การที่ผู้ว่าจ้างไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญาดังกล่าวข้างต้นนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดตาม
สัญญา
ข้อ 7 ข. กําหนดเวลาแล้วเสร็จ และสิทธิของผู้ว่าจ้างในการบอกเลิกสัญญา
ผู้รับจ้างต้องเริ่มทํางานที่รับจ้างภายในวันที่….. เดือน พ.ศ และจะต้องทํางานให้
แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในวันที่….. เดือน……….. พ.ศ ถ้าผู้รับจ้างมิได้ลงมือทํางานภายในกําหนดเวลาหรือไม่
สามารถทํางานให้แล้วเสร็จตามกําหนดเวลาหรือมีเหตุให้เชื่อได้ว่าผู้รับจ้างไม่สามารถให้แล้วเสร็จภายในกําหนดเวลา หรือจะแล้วเสร็จล่าช้าเกินกว่ากําหนดเวลาหรือผู้รับจ้างทําผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งหรือตกเป็นผู้ล้มละลายหรือ เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษาซึ่งได้รับมอบ อํานาจจากผู้ว่าจ้างผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญานี้ได้และมีสิทธิจ้างผู้รับจ้างรายใหม่ เข้าทํางานของผู้รับจ้างให้ ลุล่วงไปด้วย
สัญญา
การที่ผู้ว่าจ้างไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญาดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดตาม
ข้อ 8. ความรับผิดชอบในความชํารุดบกพร่องของงานจ้าง
เมื่องานแล้วเสร็จบริบูรณ์ และผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างหรือจากผู้รับจ้างรายใหม่
ในกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาตามข้อ 7 หากมีเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหายเกิดขึ้นจากการจ้างนี้ ภายใน กําหนด* ………………ปี……………เดือน นับถัดจากวันที่ได้รับมอบงานดังกล่าว ซึ่งความชํารุดบกพร่อง หรือเสียหาย นั้นเกิดจากความบกพร่องของผู้รับจ้างอันเกิดจากการใช้วัสดุที่ไม่ถูกต้อง หรือทําไว้ไม่เรียบร้อย หรือทําไม่ถูกต้อง ตามมาตรฐานแห่งหลักวิชา ผู้รับจ้างจะต้องรีบทําการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ชักช้า โดยผู้ว่าจ้างไม่ต้องออก เงินใดๆ ในการนี้ทั้งสิ้น หากผู้รับจ้างบิดพลิ้วไม่กระทําการดังกล่าวภายในกําหนด…......วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็น หนังสือจากผู้ว่าจ้างหรือไม่ทําการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกําหนดให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะ ทําการนั้นเองหรือจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้น โดยผู้รับจ้างต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
ข้อ 9. การจ้างช่วง
ผู้รับจ้างจะต้องไม่เอางานทั้งหมดหรือบางส่วนแห่งสัญญานี้ไปจ้างช่วงอีกต่อหนึ่งโดยไม่ได้รับ ความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างก่อน ทั้งนี้ นอกจากในกรณีที่สัญญานี้จะได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่นความยินยอม ดังกล่าวนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างหลุดพ้นจากความรับผิดหรือพันธะหน้าที่ตามสัญญานี้ และผู้รับจ้าง จะยังคง ต้องรับผิดในความผิดและความประมาทเลินเล่อ ของผู้รับจ้างช่วง หรือ ของตัวแทน หรือลูกจ้างรับจ้างช่วงนั้น ทุกประการ
หมายเหตุ * ในกรณีที่หน่วยงานผู้ว่าจ้างพิจารณาเห็นเป็นการจําเป็นและสมควร จะหักค่าจ้าง ในแต่ละเดือนไว้เพียงบางส่วน ก็ได้ โดย แก้ไขจํานวนร้อยละ ของค่าจ้างในแต่ละเดือน ตามความเหมาะสมก็ได้
** หากการจ่ายเงิน ค่าจ้างงวดที่ 2 เป็นการจ่ายตาม ผลงานของผู้รับจ้าง ในส่วนที่ปฏิบัติงาน เกินกว่าจํานวนเงิน ล่วงหน้า ให้ผู้ว่าจ้าง คืนหลักประกัน เงินล่วงหน้า พร้อมกับจ่าย เงินค่าจ้างงวดที่ 2 แต่ถ้าการจ่ายค่างจ้างงวดที่ 2 เป็นการจ่ายตาม ผลงานของผู้รับจ้าง โดยเฉลี่ยหักเงินล่วงหน้าออกตามส่วนของค่าจ้างในแต่ละงวดให้ผู้ว่าจ้างคืนหลักประกันเงินล่วงหน้าพร้อมกับ การจ่ายเงินค่างวดสุดท้าย
*** ตัดออกหรือใส่ไว้ตามความเหมาะสม
ข้อ 10. การควบคุมงานของผู้รับจ้าง
ผู้รับจ้างจะต้องควบคุมงานที่รับจ้างอย่างเอาใจใส่ด้วยประสิทธิภาพและความชํานาญ และใน ระหว่างทํางานที่รับจ้างจะต้องจัดให้มีผู้แทนซึ่งทํางานเต็มเวลาเป็นผู้ควบคุมงาน ผู้ควบคุมงานดังกล่าวจะต้องเป็น ผู้แทนได้รับมอบอํานาจจากผู้รับจ้างคําสั่งหรือคําแนะนําต่างๆ ที่ได้แจ้งแก่ผู้แทนผู้ได้รับมอบอํานาจนั้น ให้ถือว่า เป็นคําสั่งหรือคําแนะนําที่ได้แจ้งแก่ผู้รับจ้าง การแต่งตั้งผู้ควบคุมงานนั้นจะต้องทําเป็นหนังสือและต้องได้รับ ความเห็นชอบจากผู้ว่าจ้าง การเปลี่ยนตัวหรือแต่งตั้งผู้ควบคุมงานใหม่จะทํามิได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าจ้างก่อน
ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะขอให้เปลี่ยนตัวผู้แทนได้รับมอบอํานาจนั้น โดยแจ้งเป็นหนังสือไปยัง ผู้รับจ้าง และผู้รับจ้างจะต้องทําการเปลี่ยนตัวโดยพลัน โดยไม่คิดราคาเพิ่มหรืออ้างเป็นเหตุเพื่อขยายอายุสัญญาอัน เนื่องมาจากเหตุนี้
ข้อ 11. ความรับผิดชอบผู้รับจ้าง
ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือภยันตรายใด ๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงาน ของผู้รับจ้าง และจะต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการกระทําของลูกจ้างของผู้รับจ้าง
ความเสียหายใด ๆ อันเกิดแก่งานที่ผู้รับจ้างได้ทําขึ้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัย นอกจาก กรณีอันเกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบโดยซ่อมแซมให้คืนดีหรือเปลี่ยนให้ใหม่โดยค่าใช้จ่าย ของผู้รับจ้างเอง ความรับผิดของผู้รับจ้างดังกล่าวในข้อนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงาน ครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังจากนั้นผู้รับจ้างคงต้องรับผิดเพียงในกรณีชํารุดบกพร่อง หรือความเสียหายดังกล่าวในข้อ 8 เท่านั้น
ข้อ 12. การจ่ายเงินแก่ลูกจ้าง
ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายเงินแก่ลูกจ้างที่ผู้รับจ้างได้จ้างมาในอัตรา และตามกําหนดเวลาที่ผู้รับจ้างได้ ตกลงหรือทําสัญญาไว้ต่อลูกจ้างดังกล่าว
ถ้าผู้รับจ้างไม่จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าทดแทนอื่นใดแก่ลูกจ้างดังกล่าวในวรรคแรก ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่ จะเอาเงินค่าจ้างที่จะต้องจ่ายแก่ผู้รับจ้างมาจ่ายให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างดังกล่าว และให้ถือว่า ผู้ว่าจ้างได้จ่ายเงิน จํานวนนั้นเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างตามสัญญาแล้ว
ผู้รับจ้างจะต้องจัดให้มีประกันภัยสําหรับลูกจ้างทุกคนที่จ้างมาทํางานโดยให้ครอบคลุมถึง ความรับผิดทั้งปวงของผู้รับจ้างรวมทั้งผู้รับจ้างช่วงอันหากจะพึงมีในกรณีความเสียหายที่คิดค่าสินไหมทดแทนได้ ตามกฎหมายซึ่งเกิดจากอุปัทวเหตุหรือภยันตรายใด ๆ ต่อลูกจ้างหรือบุคคลอื่นที่ผู้รับจ้างหรือผู้รับจ้างช่วงจ้าง มาทํางานผู้รับจ้างจะต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวพร้อมทั้งหลักฐานการชําระเบี้ยประกันให้แก่ผู้ว่าจ้าง เมื่อผู้ว่าจ้างเรียกร้อง
หมายเหตุ *ก˚าหนดเวลาที่ผ้รู ับจ้างจะผิด ในความช˚ารุด บกพร่อง โดยปกติจะเป็ นเวลาที่ 1 ปี แตใ่ นกรณีงานจ้าง ผ้วู า่ จ้างควร
จะรับผิดมากกวา
1 ปี ตามลก
ษณะงาน หรือ ด้วยเหตใุ ดก็ตาม ก็ให้ก˚าหนด ระยะเวลา ดงั กลา่ ว ตามที่ ผ้วู า่ จ้าง เห็นเหมาะสม
ข้อ 13. การตรวจงานจ้าง
ถ้าผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้าง ผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษาเพื่อควบคุมการ ทํางานของผู้รับจ้าง กรรมการตรวจการจ้าง หรือผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ปรึกษานั้นมีอํานาจเข้าไป ตรวจการงาน ในโรงงานและสถานที่ที่ก่อสร้างได้ทุกเวลา และผู้รับจ้างจะต้องอํานวยความสะดวกและให้ความ ช่วยเหลือ ในการนั้นตามสมควร
การที่มีกรรมการตรวจการจ้าง ผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษาทําให้ผู้รับจ้างพ้นความ รับผิดชอบตามสัญญานี้ข้อหนึ่งข้อใดไม่
ข้อ 14. แบบรูปและรายการละเอียดคลาดเคลื่อน
ผู้รับจ้างจะต้องรับรองว่าได้ตรวจสอบและทําความเข้าใจในรูปแบบรูปรายการละเอียด โดยถี่ถ้วน แล้ว หากปรากฏว่าแบบรูปและรายการละเอียดนั้นผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนไปจากหลักการทางวิศวกรรมหรือ ทางเทคนิค ผู้รับจ้างตกลงที่จะปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานหรือ บริษัทที่ปรึกษาที่ ผู้ว่าจ้างแต่งตั้งเพื่อให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์โดยจะคิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มขึ้นจากผู้ว่าจ้างไม่ได้
ข้อ 15. การควบคุมงานโดยผู้ว่าจ้าง
ผู้รับจ้างตกลงว่า กรรมการตรวจการจ้าง ผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษาที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้ง มีอํานาจที่จะตรวจสอบและควบคุมงานเพื่อให้เป็นไปตามเอกสารสัญญาและมีอํานาจที่จะสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือตัดทอนซึ่งงานตามสัญญานี้ หากผู้รับจ้างขัดขืนไม่ปฏิบัติตาม กรรมการตรวจการจ้าง ผู้ควบคุมงานหรือบริษัทที่ปรึกษามีอํานาจที่จะสั่งให้หยุดกิจการนั้นชั่วคราวได้ ความล่าช้าในกรณีเช่นนี้ ผู้รับจ้าง จะถือเป็นเหตุขอขยายวันทําการออกไปมิได้
ข้อ 16. งานพิเศษและการแก้ไขงาน
ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะสั่งให้ผู้รับจ้างทํางานพิเศษซึ่งไม่ได้แสดงไว้ หรือรวมอยู่ในเอกสารสัญญา หากงานพิเศษนั้น ๆ อยู่ในขอบข่ายทั่วไปแห่งวัตถุประสงค์ของสัญญานี้ นอกจากนี้ผู้ว่าจ้างยังมีสิทธิสั่งให้ เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขแบบรูป และข้อกําหนดต่าง ๆ ในเอกสารสัญญานี้ด้วย โดยไม่ทําให้สัญญาเป็นโมฆะแต่ อย่างใด
อัตราค่าจ้างหรือราคาที่กําหนดไว้ในสัญญานี้ให้กําหนดไว้สําหรับงานพิเศษหรืองานที่เพิ่มเติมขึ้น หรือตัดทอนลงทั้งปวงตามคําสั่งของผู้ว่าจ้าง หากในสัญญาไม่ได้กําหนดไว้ถึงอัตราค่าจ้าง หรือราคาใดๆ ที่จะนํามาใช้สําหรับงานพิเศษหรืองานที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างจะได้ตกลงกันที่จะกําหนดอัตราหรือ ราคา รวมทั้งการขยายระยะเวลา (ถ้ามี) กันใหม่เพื่อความเหมาะสม ในกรณีที่ตกลงกันไม่ได้ ผู้ว่าจ้างจะกําหนด อัตราจ้างหรือราคาตายตัวตามแต่ผู้ว่าจ้างจะเห็นว่าเหมาะสมและถูกต้อง ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติงาน ตามคําสั่ง ของผู้ว่าจ้างแต่อาจสงวนสิทธิ์ที่จะดําเนินการตามข้อ 21 ต่อไปได้
ข้อ 17. ค่าปรับ
หากผู้รับจ้างไม่สามารถทํางานให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กําหนดไว้ในสัญญาและผู้ว่าจ้างยังมิได้บอก เลิกสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องชําระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นจํานวนเงิน วันละ ……………..บาท และจะต้องชําระ ค่าใช้จ่ายในการควบคุมงานในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างผู้ควบคุมงานอีกต่อหนึ่งเป็นจํานวนเงิน วันละ บาท
นับถัดจากวันที่กําหนดแล้วเสร็จตามสัญญาหรือวันที่ผู้ว่าจ้างได้ขยายให้จนถึงวันที่ ทํางานแล้วเสร็จจริง นอกจากนี้ ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่ผู้รับจ้างทํางานล่าช้าเฉพาะส่วนที่เกินกว่าจํานวน ค่าปรับและค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้อีกด้วย
ในระหว่างที่ผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญานั้น หากผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา ต่อไปได้ ผู้ว่าจ้างจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิตามข้อ 18 ก็ได้ และถ้าผู้ว่าจ้างได้แจ้ง ข้อเรียกร้องไปยัง ผู้รับจ้างเมื่อครบกําหนดแล้วเสร็จของงานขอให้ชําระค่าปรับแล้ว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะปรับ ผู้รับจ้างจนถึงวันบอกเลิก สัญญาได้อีกด้วย
ข้อ 18. สิทธิของผู้ว่าจ้างภายหลังบอกเลิกสัญญา
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา ผู้ว่าจ้างอาจทํางานนั้นเองหรือว่าจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้นต่อจนแล้ว เสร็จได้ ผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่รับจ้างทํางานนั้นต่อมีสิทธิใช้เครื่องใช้การก่อสร้างสิ่งที่สร้างขึ้นชั่วคราวสําหรับงานก่อสร้าง และวัสดุต่าง ๆ ซึ่งเห็นว่าจะต้องสงวนเอาไว้เพื่อการปฏิบัติงานตามสัญญาตามที่จะเห็นสมควร
ในกรณีดังกล่าว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิริบหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วน ตามแต่ จะเห็นสมควร นอกจากนั้นผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหาย ซึ่งเป็นจํานวนเกินกว่าหลักประกันการ ปฏิบัติงาน และค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทํางานนั้นต่อให้แล้วเสร็จตามสัญญา และ ค่าใช้จ่ายในการควบคุมงานเพิ่ม (ถ้ามี) ซึ่งผู้ว่าจ้างจะหักเอาจากเงินประกันผลงานหรือจํานวนเงินใด ๆ ที่จะจ่าย ให้แก่ผู้รับจ้างก็ได้
ข้อ 19. การกําหนดค่าเสียหาย
ค่าปรับหรือค่าเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากผู้รับจ้างตามสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะหักเอาจากจํานวน เงินค่าจ้างที่ค้างจ่ายหรือจากเงินประกันผลงานของผู้รับจ้างหรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาก็ได้
หากมีเงินค่าจ้างตามสัญญาที่หักไว้จ่ายเป็นค่าปรับ และค่าเสียหายแล้วยังเหลืออยู่อีกเท่าใด ผู้ว่าจ้างจะคืนให้แก่ผู้รับจ้างทั้งหมด
ข้อ 20. การทําบริเวณก่อสร้างให้เรียบร้อย
ผู้รับจ้างจะต้องรักษาบริเวณสถานที่ปฏิบัติงานตามสัญญานี้ รวมทั้งโรงงานหรือสิ่งอํานวยความ สะดวกในการทํางานของผู้รับจ้าง ลูกจ้าง ตัวแทน หรือของผู้รับจ้างช่วงให้อยู่ในความสะอาด ปลอดภัย และมี ประสิทธิภาพในการใช้งานตลอดระยะเวลาการจ้างและเมื่อทํางานเสร็จสิ้นแล้วจะต้องขนย้ายบรรดาเครื่องใช้ในการ ทํางานจ้างรวมทั้งวัสดุ ขยะมูลฝอย และสิ่งก่อสร้างชั่วคราวต่าง ๆ (ถ้ามี) ทั้งจะต้องกลบเกลี่ยพื้นดินให้เรียบร้อย เพื่อให้บริเวณทั้งหมดอยู่ในสภาพที่สะอาด และใช้การได้ทันที
*ข้อ 21. กรณีพิพาทและอนุญาโตตุลาการ
21.1 ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญาเกี่ยวกับข้อกําหนดแห่งสัญญานี้หรือเกี่ยวกับ การปฏิบัติสัญญานี้ และคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ ให้เสนอข้อโต้แย้งหรือข้อพิพาทนั้นต่ออนุญาโตตุลาการ เพื่อพิจารณาชี้ขาด
21.2 เว้นแต่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะเห็นพ้องกันให้อนุญาโตตุลาการคนเดียวเป็นผู้ชี้ขาดการ ระงับข้อพิพาทให้กระทําโดยอนุญาโตตุลาการ 2 คน โดยคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะทําหนังสือ แสดงเจตนาจะให้มี อนุญาโตตุลาการระงับข้อพิพาทและระบุชื่ออนุญาโตตุลาการคนที่ตนแต่งตั้งส่งไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งจากนั้น ภายในระยะเวลา 30 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งดังกล่าว คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับแจ้งจะต้องแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการ คนที่สองถ้าอนุญาโตตุลาการทั้งสองคน ดังกล่าวไม่สามารถประนีประนอมระงับข้อพิพาทนั้น ได้ให้อนุยาโตตุลา การทั้งสองคนร่วมกันแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการผู้ชี้ขาดภายในกําหนดเวลา 30 วัน นับจากวันที่ไม่สามารถตกลงกัน ผู้ชี้ขาดดังกล่าวจะพิจารณาระงับข้อพิพาทต่อไป กระบวนพิจารณาของอนุญาโตตุลาการให้ถือตามข้อบังคับ อนุญาโตตุลาการของสถาบันอนุญาโตตุลาการอนุญาโตตุลาการกระทรวงยุติธรรมโดยอนุโลม หรือตามข้อบังคับอื่น ที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ และให้กระทําในกรุงเทพมหานคร โดยใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเป็นภาษา ในการดําเนินกระบวนการพิจารณา
21.3 ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการฝ่ายตนหรือในกรณีที่ อนุญาโตตุลาการทั้งสองคนไม่สามารถตกลงกันแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการผู้ชี้ขาดได้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต่างมีสิทธิ ร้องขอต่อศาลแพ่งเพื่อแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการหรืออนุญาโตตุลาการผู้ชี้ขาดได้แล้วแต่กรณี
21.4 คําชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหรือของอนุญาโตตุลาการผู้ชี้ขาดแล้วแต่กรณี ให้ถือเป็น เด็ดขาดและถึงที่สุดผูกพันคู่สัญญา
21.5 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการฝ่ายตนและออก ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดําเนินกระบวนพิจารณาฝ่ายละครึ่ง ในกรณีที่มีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือ มีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการผู้ชี้ขาด ให้อนุญาโตตุลาการหรืออนุญาโตตุลาการผู้ชี้ขาดเป็นผู้กําหนดภาระ ค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือภาระค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการ
ข้อ 22. การขยายเวลาปฏิบัติงานตามสัญญา
ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใด ๆ อันเนื่องมาจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้าง หรือพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายทําให้ผู้รับจ้างไม่สามารถทํางานให้แล้วเสร็จตาม เงื่อนไขและกําหนดเวลาแห่งสัญญานี้ได้ ผู้รับจ้างจะต้องแจ้งเหตุหรือพฤติการณ์ดังกล่าว พร้อมหลักฐานเป็น หนังสือให้ผู้ว่าจ้างทราบ เพื่อขอขยายเวลาทํางานออกไปภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง
ถ้าผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามความในวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้รับจ้างได้สละสิทธิ์เรียกร้องในการ ที่จะขอขยายเวลาทํางานออกไปไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่าย ผู้ว่าจ้าง ซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้ง หรือผู้ว่าจ้างทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
การขยายกําหนดเวลาทํางานตามวรรคหนึ่ง อยู่ในดุลพินิจของผู้ว่าจ้างที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควร
*ข้อ 23. การใช้เรือไทย
ในการปฏิบัติตามสัญญานี้ หากผู้รับจ้างจะต้องสั่งหรือนําของเข้ามาจากต่างประเทศรวมทั้ง เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ต้องนําเข้ามาเพื่อปฏิบัติงานตามสัญญา ไม่ว่าผู้รับจ้างจะเป็นผู้ที่นําของเข้ามาเองหรือ นําเข้ามาโดยผ่านตัวแทนหรือบุคคลอื่นใด ถ้าสิ่งของนั้นต้องนําเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางเดินเรือที่มีเรือไทยเดิน อยู่ และสามารถให้บริการรับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกําหนด ผู้รับจ้างต้องจัดการให้ สิ่งของดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทยหรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยจากต่างประเทศมายังประเทศไทยเว้นแต่จะ ได้รับอนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีก่อนบรรทุกของนั้นลงเรืออื่นที่มิใช่เรือไทยหรือ เป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ ทั้งนี้ไม่ว่าการสั่งหรือสั่งซื้อ สิ่งของดังกล่าวจากต่างประเทศจะเป็นแบบ เอฟโอบี, ซีเอฟอาร์, ซีไอเอฟ หรือแบบอื่นใด
ในการส่งมอบงาน ตามสัญญาให้แก่ผู้ว่าจ้าง ถ้างานนั้นมีสิ่งของตามวรรคแรก ผู้รับจ้างจะต้อง ส่งมอบใบตราส่ง (Bill of Lading) หรือสําเนาใบตราส่งสําหรับของนั้น ซึ่งแสดงว่าได้บรรทุกมาโดยเรือไทยหรือเรือ ที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยให้แก่ผู้ว่าจ้างพร้อมกับการส่งมอบงานด้วย
ในกรณีที่สิ่งของดังกล่าวไม่ได้บรรทุกจากต่างประเทศมายังประเทศไทย โดยเรือไทยหรือเรือที่มีสิทธิ เช่นเดียวกับเรือไทย ผู้รับจ้างต้องส่งมอบหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้รับอนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการ พาณิชยนาวีให้บรรทุกของโดยเรืออื่นได้หรือหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้ชําระค่าธรรมเนียมพิเศษ เนื่องจากการไม่บรรทุก ของโดยเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวีแล้วอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ผู้ว่าจ้างด้วย
ในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่ส่งมอบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวในสองวรรคข้างต้นให้แก่ ผู้ว่าจ้าง แต่จะขอส่งมอบงานดังกล่าวให้ผู้ว่าจ้างก่อนโดยไม่รับชําระเงินค่าจ้าง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิรับงานดังกล่าวไว้ก่อน และ ชําระเงินค่าจ้างเมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนดังกล่าวแล้วได้
ข้อ 24. มาตรฐานฝีมือช่าง
ผู้รับจ้างตกลงเป็นเงื่อนไขสําคัญว่า ผู้ว่าจ้างจะต้องมีและใช้ผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือช่าง จาก หรือผู้มีวุฒิบัตรระดับ ปวช. ปวส. และปวท. หรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษา
ที่ ก.พ. รับรองให้เข้ารับราชการได้ ในอัตราไม่ต่ํากว่าร้อยละ………...…ของแต่ละสาขาช่าง แต่จะต้องมีช่างจํานวน อย่างน้อย 1 คน ในแต่ละสาขาช่างดังต่อไปนี้
24.1 ……………………………………………………
24.2 ……………………………………………………
…………………………..ฯลฯ………………………...
ผู้รับจ้างจะต้องจัดทําบัญชีแสดงจํานวนช่างทั้งหมดโดยจําแนกตามแต่ละสาขาช่างและ ระดับช่าง พร้อมกับระบุรายชื่อช่างผู้ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือช่างหรือผู้มีวุฒิบัตรดังกล่าวในวรรคแรก นํามาแสดงพร้อม หลักฐานต่าง ๆ ต่อคณะกรรมการการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงาน ก่อนเริ่มลงมือทํางาน และพร้อมที่จะให้ผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างตรวจสอบดูได้ตลอดเวลาทํางานตามสัญญานี้ของผู้รับจ้าง
หมายเหตุ * ตดออกหรือใสไ่ ว้ตามความเหมาะสม
สัญญานี้ทําขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความโดย ละเอียดตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อ พร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสําคัญต่อหน้าพยาน และคู่สัญญาต่าง ยึดถือไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ
(ลงชื่อ)… ผู้ว่าจ้าง
(……........……...…………………….)
(ลงชื่อ)… ผู้รับจ้าง
(……........……...…………………….)
(ลงชื่อ)… พยาน
(……........……...…………………….)
(ลงชื่อ)… พยาน
(……........……...…………………….)
เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาข้อ 1.4
แบบหนังสือค ้าประกัน
(หลักประกันสัญญา)
เลขที่................................................. วันที่ ........................................
ข้าพเจ้า...........................(ชื่อธนาคาร).............................. สํานักงานตั้งอยู่เลขที่ ....................................
ถนน ........................................ ตําบล / แขวง ...................................... อําเภอ/เขต .................................................
จังหวัด.................................................... โดย ผู้มีอํานาจลงนามผูกพัน
ธนาคาร ขอทําหนังสือค้ําประกันฉบับนี้ให้ไว้ต่อ .......................(ชื่อส่วนราชการผู้ว่าจ้าง). ซึ่งต่อไปนี้
เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ดังมีข้อความต่อไปนี้
1. ตามที่ ........................(ชื่อผู้รับจ้าง)......................... ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” ได้ทําสัญญาจ้าง
................................................. กับผู้ว่าจ้าง ตามสัญญาเลขที่ .................. ลงวันที่ ซึ่งผู้รับจ้าง
ต้องวางหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาต่อผู้ว่าจ้างเป็นจํานวนเงิน ...........................บาท (. )
ซึ่งเท่ากับร้อยละ............(...........%) ของมูลค่าทั้งหมดของสัญญา
ข้าพเจ้ายอมผูกพันตนเป็นผู้ค้ําประกันในการชําระเงินให้ตามสิทธิเรียกร้องของผู้ว่าจ้างจํานวนไม่เกิน
.......…….............. บาท (. ) ในกรณีที่ผู้รับจ้างก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ หรือต้อง
ชําระค่าปรับ หรือค่าใช้จ่ายใดๆ หรือผู้ว่าจ้างมิได้ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ใดๆ ที่กําหนดในสัญญาดังกล่าวข้างต้น
2. หนังสือค้ําประกันนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันทําสัญญาจ้างดังกล่าวข้างต้นจนถึงวันที่ ........................
(วันที่แล้วเสร็จ) และข้าพเจ้าจะไม่เพิกถอนการค้ําประกันภายในระยะเวลาที่กําหนดไว้
ข้าพเจ้าได้ลงนามและประทับตราไว้ต่อหน้าพยานเป็นสําคัญ
ลงชื่อ ผู้ค้ําประกัน
(..............................................................)
ตําแหน่ง............................................................
ลงชื่อ พยาน
(................................................................)
ลงชื่อ พยาน
(................................................................)
เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาข้อ 1.5(1), (2)
บทนิยาม
"ผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน" หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อรับจ้าง ในการประกวดราคาจ้างของสาํ นักงานฯ เป็นผู้มีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจการของบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นที่เข้าเสนอราคาในการประกวดราคาจ้างของสาํ นักงานฯ ในคราวเดียวกัน
การมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดังกล่าวข้างต้น ได้แก่ การที่ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์กันในลักษณะดังต่อไปนี้ :-
(๑) มีความสัมพันธ์กันในเชิงบริหาร โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจ ในการดําเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือของนิติบุคคลรายหนึ่งมีอํานาจหรือสามารถใช้อํานาจในการบริหาร จัดการกิจการของบุคคลธรรมดาหรือของนิติบุคคลอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เสนอราคาให้แก่สํานักงานฯ ในการ ประกวดราคาจ้างครั้งนี้
(๒) มีความสัมพันธ์กันในเชิงทุน โดยผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จํากัดความรับผิด ในห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เสนอราคาให้แก่สํานักงานฯ ในการประกวดราคาจ้างครั้งนี้
คําว่า "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่" ให้หมายความว่า ผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นเกินกว่าร้อยละยี่สิบห้าในกิจการนั้น หรือในอัตราอื่น ตามที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเห็นสมควรประกาศกําหนดสําหรับกิจการบางประเภทหรือบางขนาด
(๓) มีความสัมพันธ์กันในลักษณะไขว้กันระหว่าง (๑) และ (๒) โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือของนิติบุคคลรายหนึ่ง เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วน สามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาให้แก่สํานักงานฯ ในการประกวดราคาจ้างครั้งนี้ หรือในนัยกลับกัน
การดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วน หรือเข้าถือหุ้นดังกล่าวข้างต้นของคู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ของบุคคลใน (๑) (๒) หรือ (๓) ให้ถือว่าเป็นการดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วน หรือการถือหุ้นของบุคคลดังกล่าว
ในกรณีบุคคลใดใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือ ผู้ถือหุ้น โดยที่ตนเองเป็นผู้ใช้อํานาจในการบริหารที่แท้จริง หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด แล้วแต่กรณี และห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัดที่เกี่ยวข้อง ได้เสนอราคาให้แก่สํานักงานฯ ในการประกวดราคาจ้างคราวเดียวกัน ให้ถือว่าผู้เสนอราคาหรือผู้เสนองานนั้นมีความ สัมพันธ์กันตาม (๑) (๒) หรือ (๓) แล้วแต่กรณี
"การขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม" หมายความว่า การที่ผู้เสนอราคารายหนึ่งหรือหลายราย กระทําการอย่างใดๆ อันเป็นการขัดขวาง หรือเป็นอุปสรรค หรือไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมในการ เสนอราคาต่อสํานักงานฯ ไม่ว่าจะกระทําโดยการสมยอมกัน หรือโดยการให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ เรียก รับ หรือยอม จะรับเงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด หรือใช้กําลังประทุษร้าย หรือข่มขู่ว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือแสดง เอกสารอันเป็นเท็จ หรือกระทําการใดโดยทุจริต ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแสวงหาประโยชน์ในระหว่างผู้เสนอราคา ด้วยกัน หรือเพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้เสนอราคารายหน่ึงรายใดเป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับสํานักงานฯ หรือเพื่อหลีกเลี่ยง การแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อให้เกิดความได้เปรียบสํานักงานฯ โดยมิใช่เป็นไปในทางประกอบธุรกิจปกติ
เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาข้อ 1.6 (1),(2)
บัญชีเอกสารส่วนที่ 1
🔾 1. ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นนิติบุคคล
🔾 (ก) | ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด | |
- สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล | จํานวน แผ่น | |
- บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ | จํานวน แผ่น | |
- ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) | จํานวน แผ่น | |
🔾 (ข) | บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด | |
- สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล | จํานวน แผ่น | |
- สําเนาหนังสือบริคณห์สนธิ | จํานวน แผ่น | |
- บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ | จํานวน แผ่น | |
- บัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ | จํานวน แผ่น | |
- ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) | จํานวน แผ่น |
🔾 2. ในกรณีผู้เสนอราคาไม่เป็นนติบุคคล
🔾 (ก) บุคคลธรรมดา
- สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้นั้น จํานวน แผ่น
🔾 (ข) คณะบุคคล
- สําเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเขา้ เป็นหุ้นส่วน จํานวน แผ่น
- สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน จํานวน แผ่น
🔾 3. ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นผู้เสนอราคาร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า
สําเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า จํานวน แผ่น
🔾 (ก) ในกรณีผู้ร่วมค้าเป็นบุคคลธรรมดา
- บุคคลสัญชาติไทย
⚫ สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน จํานวน แผ่น
- บุคคลที่มิใช่สญชาติไทย
⚫ สําเนาหนังสือเดินทาง จํานวน แผ่น
🔾 (ข) ในกรณีผู้ร่วมค้าเป็นนิติบุคคล
- ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด
⚫ สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล จํานวน แผ่น
⚫ บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ จํานวน แผ่น
⚫ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) จํานวน แผ่น
- บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด
⚫ สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล จํานวน แผ่น
⚫ สําเนาหนังสือบริคณห์สนธิ จํานวน แผ่น
⚫ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ จํานวน แผ่น
⚫ บัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จํานวน แผ่น
⚫ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) จํานวน แผ่น
- 2 -
❑ 4. อื่นๆ (ถ้ามี)
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเอกสารหลักฐานที่ข้าพเจ้ายื่นพร้อมการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วย อิเล็กทรอนิกส์ในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ถูกต้องและเป็นความจริงทุกประการ
ลงชื่อ ผู้เสนอราคา
(...............................................................)
บัญชีเอกสารส่วนที่ 2
❑ 1. | หนังสือมอบอํานาจซึ่งปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย ในกรณีที่ ผู้เสนอราคามอบอํานาจให้บุคคลอื่นลงนามในใบเสนอราคาแทน | จํานวน แผ่น |
❑ 2. | หลักประกันการเสนอราคา | จํานวน แผ่น |
❑ 3. | หนังสือรับรองผลงานทางด้านการรับจ้างเดินสาย Fiber optic | จํานวน แผ่น |
❑ 4. | หนังสือรับรองจากเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง หรือหนังสือรับรองจากตัวแทนจําหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น โดยตัวแทนจะต้อง ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้น | จํานวน แผ่น |
❑ 5. | อื่นๆ (ถ้ามี) | จํานวน แผ่น |
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
🔾 .....................................................................................................................................
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเอกสารหลักฐานที่ข้าพเจ้าได้ยื่นมาพร้อมการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้าง ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ถูกต้องและเป็นความจริงทุกประการ
ลงชื่อ ผู้เสนอราคา
(.......................................................)