ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (Data Sharing Agreement : DSA) ระหว่าง
LOGO
ค่สู ญญา
ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (Data Sharing Agreement : DSA) ระหว่าง
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับ ชื่อคู่สัญญา
ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อตกลง”) ฉบับนี้ทำขึ้น เมื่อ (ระบุ▇▇▇▇▇▇) (สถานที่จัดทำสัญญา)
โดยที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต่อไปในข้อตกลงฉบับนี้เรียกว่า “สำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ฝ่ายหนึ่ง ได้ตกลงใน ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล กับ [ระบุชื่อ คู่สัญญา] ซึ่งต่อไปในข้อตกลงนี้จะเรียกว่า “ระบุชื่อคู่สัญญา” อีกฝ่ายหนึ่ง
เพื่อให้▇▇▇▇▇วัตถุประสงค์ภายใต้ข้อตกลงของการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล คู่สัญญามีความจำเป็น ต้องแบ่งปัน โอน แลกเปลี่ยน หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “แบ่งปัน”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเก็บรักษาแก่อีกฝ่าย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่แต่ละฝ่าย เก็บรวมรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคล”) นั้น แต่ละฝ่ายต่างเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลแยกต่างหากจากกันตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายอื่นๆ ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ กล่าวคือแต่ละฝ่ายต่างเป็นผู้▇▇▇▇▇▇▇หน้าที่ตัดสินใจ กำหนดรูปแบบ และกำหนดวัตถุประสงค์ของการ ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคล และต่างอยู่ภายใต้บังคับในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ใน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เกี่ยวข้องกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต่างหากจากกัน
เพื่อเป็นหลักฐานการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างทั้งสองฝ่าย และเพื่อ▇▇▇▇▇▇การให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายอื่นๆ ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งต่อไปในข้อตกลงฉบับนี้ รวมเรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล” ▇▇▇▇▇▇▇มีผลบังคับอยู่ ณ วันทำข้อตกลงฉบับนี้ และที่จะมีการเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง ในภายหลัง โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ทั้งสองฝ่ายรับทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้▇▇▇▇▇▇ ระบุตัวบุคคลนั้น▇▇▇ ▇▇▇ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๒๖ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา ▇▇▇▇▇▇ พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการ คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ซึ่งแต่ละฝ่าย…
ซึ่งแต่ละฝ่าย จะ▇▇▇▇▇▇การตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อคุ้มครองให้การ ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่แต่ละฝ่ายตกลงแบ่งปัน มีดังรายการต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่แบ่งปันโดย สำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข | วัตถุประสงค์ในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล |
1. ข้อมูลทั่วไป 2. ข้อมูลสุขภาพสำหรับประชาชน 3. ข้อมูลสุขภาพสำหรับ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇เกี่ยวข้องกับการรักษา (EMR) ทั้งนี้ ตามเอกสารแนบท้าย เลขที่ ...../....... | 1. เพื่อความจำเป็นในการรักษาพยาบาลป้องกัน และควบคุมโรค ▇▇▇▇▇▇▇▇และป้องกันปัญหาด้านสุขภาพ และด้านสุขภาพจิต 2. เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาวิจัยและพัฒนา ทางการแพทย์และสาธารณสุข 3. เพื่อการเบิกจ่ายระบบหลักประกันสุขภาพ ทั้งนี้ ตามเอกสารแนบท้าย เลขที่ ...../....... |
3. ฐานทางกฎหมายในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ ๒ แต่ละฝ่าย ▇▇▇▇▇ทางกฎหมายตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลแก่อีกฝ่าย (แต่ละฝ่ายอาจใช้ฐานทางกฎหมายที่ต่างกันในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล)
ฐานทางกฎหมายของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข | |
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป | ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว |
1. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล 2. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ ในการ▇▇▇▇▇▇การตามคำขอของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น 3. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการ ▇▇▇▇▇▇ภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้▇▇▇▇▇ รัฐ▇▇▇▇▇▇มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล 4. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือของบุคคล | 1. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล 2. เพื่อให้▇▇▇▇▇วัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ 3. การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ 4. การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม 5. การรักษาทางการแพทย์ 6. การจัดการด้านสุขภาพ 7. ระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์ |
หรือนิติบุคคล…
หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่า▇▇▇▇▇ ขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล 5. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคล 6. ความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | 8. สัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ 9. ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข 10. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 11. สวสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ของผู้มี▇▇▇▇▇ตามกฎหมาย 12. การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 13. ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ 14.ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล |
4. ทั้งสองฝ่ายรับรองและยืนยันว่า ก่อนการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลแก่อีกฝ่าย ตนได้▇▇▇▇▇▇การแจ้ง ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการแบ่งปันข้อมูลและ▇▇▇▇▇ทางกฎหมายหรือ▇▇▇▇▇หน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้▇▇▇▇▇▇เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้อีกฝ่าย และให้อีกฝ่าย▇▇▇▇▇▇ทำการ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคล ▇▇▇▇▇▇รับนั้นตามวัตถุประสงค์▇▇▇▇▇▇ตกลงกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว
5. ทั้งสองฝ่ายรับรองว่า ▇▇▇▇▇▇▇แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ถูกจำกัด▇▇▇▇▇ ยับยั้งหรือมีข้อห้ามใด ๆ ในการ
5.1 ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเป็นฝ่ายแบ่งปัน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดในข้อตกลงฉบับนี้
5.2 แบ่งปันส่วนบุคคลไปยังอีกฝ่ายเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อตกลงฉบับนี้
6. ทั้งสองฝ่ายจะทำการ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคลที่รับมาจากอีกฝ่ายเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อให้▇▇▇▇▇ วัตถุประสงค์▇▇▇▇▇▇กำหนดในข้อ ๒ ของข้อตกลงฉบับนี้ และแต่ละฝ่ายจะไม่▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือ ▇▇▇▇▇ทางกฎหมายหรือ ▇▇▇▇▇หน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย
7. ทั้งสองฝ่ายรับรองว่าจะควบคุมดูแลให้เจ้าหน้าที่ และ/หรือลูกจ้าง ตัวแทนหรือบุคคลใด ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในการ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคล▇▇▇▇▇▇รับจากอีกฝ่ายภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ รักษาความลับและปฏิบัติ ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด และ▇▇▇▇▇▇การ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อตกลงฉบับนี้เท่านั้น โดยจะไม่ทำซ้ำ คัดลอก ทำสำเนา บันทึกภาพข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นอันขาด เว้นแต่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาหลัก หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะระบุหรือ▇▇▇▇▇▇▇ไว้เป็นประการอื่น
8. ทั้งสองฝ่ายรับรองว่าจะกำหนดให้การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ถูกจำกัด เฉพาะเจ้าหน้าที่ และ/หรือลูกจ้าง ตัวแทนหรือบุคคลใด ๆ ▇▇▇▇▇▇รับมอบหมาย มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือมีความ จำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้เท่านั้น
9. ▇▇▇▇▇▇▇รับข้อมูลจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล▇▇▇▇▇▇รับจาก▇▇▇▇▇▇▇โอนข้อมูลแก่บุคคลของ▇▇▇▇▇▇▇รับ ข้อมูลที่ไม่มี▇▇▇▇▇หน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการ▇▇▇▇▇▇ผล หรือบุคคลภายนอกใด ๆ เว้นแต่ที่มีความจำเป็นต้อง
กระทำตามหน้าที่...
กระทำตามหน้าที่ ข้อตกลงฉบับนี้หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือ ▇▇▇▇▇▇รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์ ▇▇▇▇▇จาก▇▇▇▇▇▇▇โอนข้อมูลก่อน
10. ทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่จัดให้มีและ▇▇ไว้ซึ่งมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ที่เหมาะสม ซึ่งประกอบด้วยมาตรการเชิงองค์กร (organizational measures) และมาตรการเชิงเทคนิค (technical measures) รวมถึงมาตรการเชิงกายภาพ (physical measures) ตามประกาศคณะกรรมการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่องมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2565 และ/หรือตามมาตรฐาน▇▇▇▇ โดย▇▇▇▇▇ถึงลักษณะ ขอบเขต และวัตถุประสงค์ของการ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูล ส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจาก ▇▇▇▇▇หรือโดยมิชอบและทั้งสองฝ่ายต้องทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตร ฐานขั้นต่ำ ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
11. ทั้งสองฝ่ายจะต้อง▇▇▇▇▇▇การตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นการขอใช้▇▇▇▇▇ของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวกับตนในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคล และทั้งสองฝ่ายตกลงจะให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนการ▇▇▇▇▇▇การที่เกี่ยวข้องของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ตาม▇▇▇▇▇ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ ในการตอบ▇▇▇▇ต่อข้อเรียกร้องใดๆ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จากการใช้▇▇▇▇▇ต่างๆ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
12. ทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่แจ้งให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งทราบถึงเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้น จากการ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน▇▇▇▇▇▇ส่งผลกระทบต่อคู่สัญญาอีกฝ่าย โดย▇▇▇▇▇▇▇▇▇ภายในกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง และคู่สัญญามีหน้าที่ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนการ▇▇▇▇▇▇การที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลโดยปราศจาก▇▇▇▇▇หรือโดยมิชอบ เพื่อให้▇▇▇▇▇▇การตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เกี่ยวข้องในส่วนของตนได้
การแจ้งและให้ความร่วมมือดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และความรับผิด ของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายในส่วนการ▇▇▇▇▇▇การแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลกำหนด
13. หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีความจำเป็นจะต้องเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล▇▇▇▇▇▇รับจากอีกฝ่าย ไปยังต่างประเทศ การส่งออกซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะต้องได้รับ▇▇▇▇▇▇ตามมาตรฐานโอนข้อมูล ส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเข้า ทำสัญญาใดๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
14. ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะให้ผู้รับจ้างทำการ▇▇▇▇▇▇ผลข้อมูลส่วนบุคคลที่รับโอน มา▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน คู่สัญญาต้องคัดเลือก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇มีความเหมาะสม น่าเชื่อถือ และมีความ▇▇▇▇▇▇ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รับจ้างได้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
15. เว้นแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องจะ▇▇▇▇▇▇▇ไว้เป็นประการอื่น คู่สัญญาฝ่ายผู้รับโอนข้อมูลจะทำการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนได้รับจากอีกฝ่ายภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ภายใน ๙๐ วัน นับแต่▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇การ
▇▇▇▇▇▇ผล...
▇▇▇▇▇▇ผลตามวัตถุประสงค์ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้เสร็จสิ้น หรือ▇▇▇▇▇▇ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงเป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇ ให้ยกเลิกสัญญาหลักแล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
ความในวรรคหนึ่งจะไม่ใช้บังคับในกรณีที่คู่สัญญามีวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายหรือ▇▇▇▇▇ทาง กฎหมายในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่รับโอน▇▇▇▇▇▇ต่อไปได้
ทั้งนี้ ในกรณีที่ปรากฏว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนได้รับ จากอีกฝ่ายตามข้อตกลงฉบับนี้ก่อนสิ้นระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ฝ่ายนั้นจะทำการลบหรือทำลายข้อมูล ส่วนบุคคลที่ตนได้รับตามข้อตกลงฉบับนี้ทันที
16. หน้าที่ของทั้งสองฝ่ายในการปฏิบัติตามข้อตกลงฉบับนี้จะสิ้นสุดลงนับแต่▇▇▇▇▇▇การ▇▇▇▇▇▇การ ที่ข้อตกลงเสร็จสิ้นลง หรือ▇▇▇▇▇▇ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงเป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇ให้ยกเลิกข้อตกลง แล้วแต่กรณีใด จะเกิดขึ้นก่อน ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพื่อการก่อตั้ง ▇▇▇▇▇เรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้▇▇▇▇▇เรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ ▇▇▇▇▇เรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ▇▇▇▇▇▇ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
17. ในกรณีที่ข้อตกลง คำรับรอง การเจรจา หรือข้อผูกพันใด▇▇▇▇▇▇▇สองฝ่ายมีต่อกันไม่ว่าด้วยวาจา หรือเป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇ใดขัดหรือแย้งกับข้อตกลงที่ระบุในข้อตกลงฉบับนี้ ให้ใช้ข้อความตามข้อตกลงฉบับนี้บังคับ ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานแห่งการนี้ ทั้งสองฝ่าย
จึงได้ลง▇▇▇▇▇▇เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน ณ วัน เดือน ปี ที่ระบุข้างต้น
ลงชื่อ …….……………….........................……….... (............................................................) ▇▇▇▇▇▇ ............................................................ | ลงชื่อ …….……………….........................……….... (............................................................) ▇▇▇▇▇▇ ............................................................ |
ลงชื่อ พยาน (............................................................) ▇▇▇▇▇▇ ............................................................ | ลงชื่อ พยาน (............................................................) ▇▇▇▇▇▇ ............................................................ . |
เอกสารแนบท้าย
ข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (Data Sharing Agreement : DSA) ระหว่าง
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับ ชื่อคู่สัญญา
ข้อมูลส่วนบุคคลที่คู่สัญญาแบ่งปัน โดยคู่สัญญาแต่ละฝ่ายตกลงแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล แก่คู่สัญญาอีกฝ่าย ดังรายการต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่แบ่งปันโดย (ระบุชื่อ คู่สัญญา) | วัตถุประสงค์ในการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล |
ตามเอกสารแนบท้าย เลขที่ ...../....... | ตามเอกสารแนบท้าย เลขที่ ...../....... |