กรมธรรม์ประกันภัยแบบระบุโรค (ขายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (Online))
กรมธรรม์ประกันภัยแบบระบุโรค (ขายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (Online))
โดยการเชื่อถือข้อแถลงในใบคำขอเอาประกันภัยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ และเพื่อเป็นการตอบแทน เบี้ยประกันภัยที่ผเอาประกันภัยต้องชำระภายใต้ข้อบังคับ เงื่อนไขและข้อกำหนดทั่วไป ข้อตกลงคมครอง ข้อยกเว้น และ เอกสารแนบท้ายแห่งกรมธรรม์ประกันภัย บริษทให้▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇กับผู้เอาประกันภัยดังต่อไปนี้
▇▇▇▇▇▇▇ 1 คำจำกัดความ
ถ้อยคำและคำบรรยายซึ่งมีความหมายเฉพาะ▇▇▇▇▇▇ให้ไว้ในส่วนใดก็ตามของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จะถือเป็นความหมายเดียวกัน ทั้งหมด ไม่ว่าจะปรากฏในส่วนใดก็ตาม เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในกรมธรรม์ประกันภยนี้
กรมธรรม์ประกันภัย หมายถึง ตารางกรมธรรม์ประกันภัย เงื่อนไขและข้อกำหนดทั่วไป ข้อตกลง
คุ้มครอง ข้อยกเว้น เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัย ข้อระบุ พิเศษ ข้อรับรอง ใบสลักหลังกรมธรรม์และเอกสารสรุปเงื่อนไข ข้อตกลงคุ้มครอง ข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งถือเป็นส่วน หนึ่งแห่ง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
บริษัท หมายถึง บริษท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ผู้เอาประกันภัย หมายถึง บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้เอาประกันภัยในตาราง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ผู้อยู่ในอุปการะ หมายถึง ผู้ที่อยู่ในความอุปการะของผู้เอาประกันภัย และได้ระบุชื่อไว้ใน
เอกสารแนบตารางกรมธรรม์ประกันภัย ได้แก่
1. คู่สมรสของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇มีอายุไม่เกิน ปี▇▇▇▇▇▇▇▇
2. บุตรตามกฎหมายของผู้เอาประกันภัย หรือของคู่สมรส ที่มีอายุ
ตั้งแต่ ... - ... สัปดาห์แต่ไม่เกิน ปี▇▇▇▇▇▇▇▇ และยังมิได้สมรส
หรืออายุไม่เกิน ปี▇▇▇▇▇▇▇▇ และกำลังศึกษาอยู่
ผู้ได้รับความคุ้มครอง หมายถึง ผู้เอาประกันภัย และ/หรือ ผู้อยู่ในอุปการะของผู้เอาประกันภัย
เฉพาะบุคคลที่ระบุชื่อไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย และ/หรือ เอกสารแนบท้าย
การเจ็บป่วย หมายถึง อาการ ความผิด▇▇▇▇ การป่วยไข้ หรือการเกิดโรคที่เกิดขนกับ
ผู้ได้รับความคุ้มครอง
แพทย์ หมายถึง ผู้ที่สำเร็จการศึกษาได้รับ▇▇▇▇▇▇แพทยศาสตร▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇ขนทะเบยน อย่างถูกต้องจากแพทยสภา และได้รับอนุญาตใหประกอบวิชาชีพ
สาขาเวชกรรมใน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ให้บริการทางการแพทย์ หรือทางด้าน ศัลยกรรม
แพทย์ทางเลือก หมาย▇▇▇ ▇▇▇ตรวจวินิจฉัย การรักษาพยาบาล หรือการป้องกันโรคโดยวิธีการ
แพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านไทย การแพทย์แผน▇▇▇ หรือวิธการ
อื่นๆ ที่มิใช่การแพทย์แผนปจั จบน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หมายถึง แพทย์▇▇▇▇▇▇รับอนุมัติบัตรหรือวุฒิบัตรจากแพทยสภาหรือสถาบัน
เฉพาะโรคหรือ เทียบเท่า และไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ให้คำปรึกษา
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดูแล หรือรักษาร่วมกับแพทย์เจ้าของไข้
พยาบาล หมายถึง ผู้▇▇▇▇▇▇รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพพยาบาลตามกฎหมาย
ผู้ป่วยใน หมายถึง ผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล เวชกรรม ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งต้องลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยใน โดยได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากแพทย์ตามข้อบ่งชี้ซึ่งเป็น
มาตรฐานทางการแพทย์และในระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการ▇▇▇▇▇
▇▇▇บาดเจบ หรือการเจ็บป่วยนั้นๆ และให้รวมถึงกรณีรับตัวไว้เปน
ผู้ป่วยในแล้วต่อมาเสียชีวิตก่อนครบ 6 ชั่วโมง
ผู้ป่วยนอก หมายถึง ผู้ที่รับบริการอันเนื่องจากการรักษาพยาบาลในแผนกผู้ป่วยนอก หรือในห้องรักษาฉุกเฉินของโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวช กรรม หรือคลินิก ซึ่งไม่มีความจำเป็นตามข้อวินิจฉัยและข้อบ่ง▇▇▇▇▇▇ เป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน
โรงพยาบาล หมายถึง สถานพยาบาลใดๆ ซึ่งจัดให้บริการทางการแพทย์โดย▇▇▇▇▇▇รับ
ผู้ป่วยไว้ค้างคืนและมีองค์ประกอบทางด้านสถาน▇▇▇▇▇▇มีจำนวน
บุคลากรทางการแพทย์▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ตลอดจนการจัดการใหบริการที่ ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีห้องสำหรับการผ่าตัดใหญ่ และได้รับ อนุญาตให้จดทะเบียน▇▇▇▇▇▇การเป็นโรงพยาบาลตามกฎหมาย สถานพยาบาลของอาณาเขตนั้นๆ
สถานพยาบาลเวชกรรม หมายถึง สถานพยาบาลใดๆ ซึ่งจัดให้บริการทางการแพทย์ โดย▇▇▇▇▇▇รับ
ผู้ป่วยไว้ค้างคืนและได้รับอนุญาตใหจ้ ดทะเบียน▇▇▇▇▇▇การเป็น สถานพยาบาลเวชกรรมตามกฎหมายของอาณาเขตนั้นๆ
คลินิก หมายถึง สถานพยาบาลแผนปัจจุบัน▇▇▇▇▇▇รับอนุญาตตามกฎหมาย ▇▇▇▇▇▇การ
โดยแพทย์ทำการรักษาพยาบาล ตรวจวินิจฉัยโรค และไม่▇▇▇▇▇▇รับ ผู้ป่วยไว้▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
เอดส์ (AIDS) หมายถึง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome) ซึ่งเกิด
จากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ และให้หมายความรวม▇▇▇▇▇▇ติดเชื้อจลชีพ ฉวยโอกาส เนื้องอกร้ายแรง (Malignant Neoplasm) หรือการติดโรค
หรือการเจบป่วยใดๆ ซึ่งโดยผลการตรวจเลือดแสดงเปนเลือดบวก
ของไวรัส HIV (Human Immunodeficiency Virus) การติดเชื้อจุลชีพ ฉวยโอกาสให้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเชื้อที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ (Pneumocystis Carinii Pneumonia) เชื้อที่ทำใหเ้ กิด โรคลำไส้อักเสบหรือเรื้อรัง (Organism or Chronic Enteritis) เชื้อ
ไวรัส (Virus) และ/หรือ เชื้อรา▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇อยู่ทั่วไป (Disseminated Fungi Infection) เนื้องอกร้ายแรง (Malignant Neoplasm) ให้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะเนื้องอก Kaposi’s Sarcoma เนื้องอกเซลล์น้ำเหลือง
ที่ระบบศูนย์▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ (Central Nervous System Lymphoma) และ/หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักในปจั จุบันนี้ว่าเป็นอาการ ของภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Acquired Immune Deficiency Syndrome)
หรือซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนทเปนเสียชีวิตอย่างกะทันหน เจ็บป่วย
หรือทุพพลภาพ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) ให้รวมถึงเชื้อไวรัส HIV (Human Immune Deficiency Virus) โรคที่ทำให้เยื่อสมองเสื่อม (Encephalopathy Dementia) และการระบาดของเชื้อไวรัส
โรคติดต่อ หมายถึง โรคที่เกิดจากเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค ซึ่ง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇โดยทางตรง หรือทางอ้อมมาสู่คน
▇▇▇▇▇▇▇ 2 เงื่อนไขทั่วไปและข้อกำหนด
1. ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เกิดขึ้นจากการที่บริษัทเชื่อถือข้อแถลงของผู้เอาประกันภัยในใบคำขอเอาประกันภัยและในใบแถลง
สุขภาพและข้อแถลงเพิ่มเติม (ถ้ามี) ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ให้ไว้เปน บริษทจึงได้ออก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ไว้ให้
หลักฐานในการตกลงรับประกันภัยตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ในกรณีที่ผเอาประกันภัยรู้อยู่แล้ว แต่แถลงข้อความอันเป็นเทจ็ ในขอแถลงตามวรรคหนึ่ง หรือรู้อยู่แล้วในข้อความจริงใด แต่ปกปิดข้อความจริงนั้นไว้โดยไม่แจ้งให้บริษัททราบ ซึ่งถ้าบริษททราบข้อความจริงนั้นๆ อาจจะได้จูงใจให้บริษัทเรียก เบี้ยประกันภัยสูงขึ้น หรือ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ยอมทำ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จะตกเป็นโมฆียะตามมาตรา 865
แห่ง▇▇▇▇▇▇กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทมี▇▇▇▇▇บอกล้าง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
บริษทจะไม่ปฏเสธความรับผิดโดยอาศัยข้อแถลง นอกเหนือจาก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ได้แถลงไว้ในเอกสารตามวรรคหนึ่ง
2. การไม่โต้แย้งหรือคัดค้านความไม่▇▇▇▇▇▇▇ของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
บริษทจะไม่โต้แย้งหรือคัดค้านความไม่▇▇▇▇▇▇▇ของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับมาเป็นเวลา 2 ปี กรมธรรม์ประกันภัยติดต่อกันขึ้นไป นับแต่▇▇▇▇▇▇กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคบเป็นครั้งแรก เว้นแต่การขาดชำระเบี้ย
ประกันภัย
ในกรณีที่บริษัทได้ทราบข้อมูลอันจะบอกล้าง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ แต่มิได้ใช้▇▇▇▇▇บอกล้าง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่ทราบข้อมูลนั้น บริษัท▇▇▇▇▇▇บอกล้างความ▇▇▇▇▇▇▇ของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ในกรณีนี้ได้
3. การแก้ไขกรมธรรม์ประกันภัย
การแก้ไข▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ จะมี▇▇▇▇▇▇▇▇▇ต่อเมื่อบริษัทตกลงยอมรับการแก้ไข และจะมีผลบงคับต่อเมื่อบริษทได้
บันทึกแก้ไขในกรมธรรม์ประกันภัย หรือออกเป็นเอกสารแนบท้ายหรือใบสลักหลังให้แล้ว โดยผู้▇▇▇▇▇▇▇ทำการแทนบริษทั
4. การชำระเบี้ยประกันภัย และการเริ่มความคุ้มครอง
4.1 การจ่ายเบี้ยประกันภัยในปีแรก ผู้เอาประกันภัยจะถึงกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยทันทีและความคุ้มครองจะเริ่ม ใน▇▇▇▇▇▇กรมธรรม์ประกันภัยเริ่มต้นมีผลบังคับตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
4.2 การจ่ายเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ ผู้เอาประกันภัยจะถึงกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยภายใน 30 วัน นับจาก▇▇▇▇▇▇
กรมธรรม์ประกันภัยในปีก่อนหน้าสิ้นผลบังคับตามที่ระบุในตารางกรมธรรม์ประกันภัยและความคุ้มครองในปีต่ออายุ จะเป็นดังนี้
4.2.1 หากผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยภายใน 30 วันดังกล่าว ให้▇▇▇▇▇▇ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ในปีที่ต่ออายุเป็นความคุ้มครองต่อเนื่องจากในปีก่อนหน้า และไม่นำเงื่อนไขและข้อกำหนดทั่วไป ข้อ 15 เรื่อง ระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุ้มครอง (Waiting Period) มาเริ่มนับใหม่
4.2.2 หาก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชำระเบี้ยประกันภัยสำหรับปีที่ต่ออายุภายในระยะเวลาที่กำหนดให้▇▇▇▇▇▇ความคุ้มครอง ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ สิ้นสุดลงตั้งแต่▇▇▇▇▇▇กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคบตามที่ระบุไว้ในตาราง
กรมธรรม์ประกันภัย
5. การแถลงอายุหรือเพศ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ถ้ามีการแถลงอายุหรือเพศของผู้ได้รับความคุ้มครองคลาดเคลื่อนจากความจริง ทำให้
5.1 บริษทได้รับเบี้ยประกันภัยน้อยกว่าที่กำหนด จำนวนเงิน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ที่จะได้รับตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จะเท่ากับ จำนวนเบี้ยประกันภัย▇▇▇▇▇▇ชำระแล้วนั้น อาจซื้อความคุ้มครองตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ตามอายุและเพศที่ถูกต้อง แท้จริง หากอายุหรือเพศของผู้ได้รับความคุ้มครองที่ถูกต้องแท้จริงนั้น▇▇▇▇▇▇ได้รับความคุ้มครองภายใต้▇▇▇▇▇▇▇▇
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇แล้ว บริษทจะไม่จ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ใดๆให้แต่จะคืนเบี้ยประกันภัยของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชำระแล้ว
5.2 บริษทได้รับเบี้ยประกันภัยเกินกวาอัตราที่กำหนด บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยในส่วนทเกินให้แก่▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ บริษัทจะไม่นำเงื่อนไขนี้ไปบังคับใช้เพื่อการปรับเบยประกันภัยย้อนหลัง สำหรับระยะเวลาเอาประกันภัย ในปี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ผ่านไปแล้ว
6. การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย
6.1 ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇อาจต่ออายุต่อเนื่องได้ จนถึงรอบปีกรมธรรม์ประกันภัยและผู้เอาประกันภัยมีอายุไม่เกิน ... 100 ... ปี▇▇▇▇▇▇▇▇ บริษทยินยอมให้มีการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย บริษทยัง▇▇ไว้ซึ่ง▇▇▇▇▇ใน
6.1.1 การปรับอัตราเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงภัยและอายุที่▇▇▇▇▇ขึ้นของผู้ได้รับความคมครองและ
6.1.2 การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการรับประกันภัย เงื่อนไขข้อตกลงคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยในปีที่ต่ออายุได้ ตามความจำเป็น
6.2 บริษทอาจปฏิเสธการต่ออายุ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ โดยการแจ้งต่อผู้เอาประกันภัยทราบเป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇ล่วงหน้า อย่างน้อย 30 วันก่อน▇▇▇▇▇▇กรมธรรม์ประกันภัยจะสิ้นผลบังคบตามที่ระบุไว้ในตาราง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
▇▇▇▇▇▇▇ บริษัทต้องแจ้งให้ผู้เอาประกันภัยทราบกรณีมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหรือขยายความคุ้มครองใดๆ ของเงื่อนไข ความคุ้มครอง ข้อยกเว้น เอกสารแนบท้าย หรืออื่นๆ ที่เปนสาระสำคัญตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
7. การปรับเบี้ยประกนภัย
บริษทจะปรับเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ประกันภัยตามช่วงอายุที่เปลี่ยนไปของผู้ได้รับความคุ้มครอง ตามอัตราที่ บริษทได้รับความเหนชอบจากนายทะเบียน โดย▇▇▇▇▇ใหผู้ได้รับความคุ้มครองทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇
8. การสิ้นสุดความคุ้มครอง
8.1 ความคุ้มครองของผู้เอาประกันภยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ จะสิ้นสุดเมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ดังต่อไปนี้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
8.1.1 ณ วันสิ้นสุดตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ ... 100 ... ปี▇▇▇▇▇▇▇▇
8.1.2 เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต บริษทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับ ระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน
8.1.3 เมื่อผู้เอาประกันภัยถูกจองจำอยู่ในเรือนจำหรือทัณฑสถาน บริษัทจะคนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน
8.1.4 เมื่อ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชำระเบี้ยประกันภัยตามเงื่อนไขและข้อกำหนดทั่วไป ข้อ 4 การชำระเบี้ยประกันภัยและ การเริ่มความคุ้มครอง
8.2 ความคุ้มครองของผู้ได้รับความคมครองแต่ละราย จะสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นดังต่อไปนี้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
8.2.1 ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผู้ได้รับความคุ้มครองขาดคุณสมบัติในการเปนผู้ได้รับความคุ้มครอง ตามคำจำกัดความที่กำหนดไว้
8.2.2 เมื่อผู้ได้รับความคุ้มครองเสียชีวิต บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แกผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน
8.2.3 เมื่อผู้ได้รับความคุ้มครองถูกจองจำอยู่ในเรือนจำหรือทัณฑสถาน บริษทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่
ผู้เอาประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้ บังคบมาแล้วออกตามส่วน
8.2.4 เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยสิ้นสุดลงตามเงื่อนไข ข้อ 8.1
8.3 ความคุ้มครองในแต่ละข้อตกลงคมครอง และ/หรือ เอกสารแนบท้ายจะสิ้นสุด เมื่อบริษทได้จ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เท่ากับ จำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในแต่ละข้อตกลงคุ้มครอง และ/หรือ เอกสารแนบท้ายนั้นแล้ว
8.4 ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇และการประกันภัยทั้งหลายตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จะสิ้นสุดใน เวลา 24.00 น.ตามเวลา ประเทศไทยใน▇▇▇▇▇▇สิ้นสุดของกรมธรรม์ประกันภัย
9. การตรวจทางการแพทย์
บริษท
มีสท
ธิตรวจสอบประวัติการรักษาพยาบาลและการตรวจวินิจฉัยของผู้ได้รับความคุ้มครองเท่าที่จำเป็นกับการประกันภัยนี้
และมี▇▇▇▇▇ทำการชันสูตรพลิกศพในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและไม่เปนการขัดต่อกฎหมาย โดยค่าใช้จ่ายของบริษัท
ในกรณีที่ผู้ได้รับความคมครองไม่ยินยอมใหบริษทตรวจสอบประวัติการรักษาพยาบาลและการตรวจวินิจฉัยของผู้ได้รับ ความคุ้มครองเพื่อประกอบการพิจารณาจ่ายค่า▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇นั้น บริษัทอาจปฏเสธความคุ้มครองตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ แก่ผู้ได้รับความคุ้มครองได้
10. การแจ้งและการเรียกร้อง
ผู้ได้รับความคุ้มครอง หรือตัวแทนของผู้ได้รับความคุ้มครองแล้วแต่กรณี จะต้องแจงให้บริษัททราบ▇▇▇▇▇▇เจ็บป่วย ▇▇▇▇▇▇ เป็นเหตุแห่งการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇โดย▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ในกรณีที่มีการเสียชีวิตต้องแจ้งให้บริษัท
ทราบทนที เว้นแต่จะพิส▇▇ น์ได้ว่ามีเหตุจำเป็นอัน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇แจ้งให้บริษัททราบดัง▇▇▇▇▇▇กล่าวมาแล้วข้างต้นได้แต่ได้แจ้ง โดยเร็วที่สุดเท่าที่▇▇▇▇▇▇จะกระทำได้แล้ว
11. การส่งหลักฐานการเรียกร้อง
ในกรณีการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ผู้ได้รับความคุ้มครองหรือตัวแทนของผู้ได้รับความคุ้มครอง แล้วแต่กรณี จะต้องส่งหลักฐานดงต่อไปนให้แก่บริษัท โดยค่าใชจ้ ายของตนเอง
1. แบบฟอร์มการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇กำหนดโดยบริษัท
2. ใบรับรองทางการแพทย์ และ/หรือ ผลตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ
3. เอกสารที่บริษทร้องขอเพิ่มเติมตามความจำเปนในการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
โดยให้ส่งหลักฐานข้างต้นภายใน 30 วัน นับจาก▇▇▇▇▇▇ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ ระบุว่าเป็นภาวะหรือโรคตามข้อตกลง คุ้มครอง และ/หรือ เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัย
การไม่ส่งหลักฐานภายในระยะเวลาดังกล่าว ไม่ทำให้▇▇▇▇▇ในการเรียกร้องเสียไป หากแสดงให้เหนได้ว่ามีเหตุอัน▇▇▇▇▇
▇▇▇ไม่▇▇▇▇▇▇ส่งหลักฐานดังกล่าวได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ได้ส่งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้แล้ว
12. การจ่ายค่า▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
บริษทจะจ่ายเงน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตามกรมธรรม์ประกันภัย ภายใน 15 วันนับแต่วันทบริษัทได้รับหลักฐานตามการส่งหลักฐาน การเรียกร้องเงิน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเรียกร้องเพื่อให้บริษัทชดใช้ตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวข้างต้นไม่เปนไปตามข้อตกลง
คุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัย ระยะเวลาที่กำหนดไว้อาจขยายออกไปอีกได้ตามความจำเปน แต่▇▇▇▇▇▇บริษัทได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว
แต่ทั้งนี้จะไม่เกิน 90 วัน นับ
หากบริษท▇▇▇▇▇▇จ่ายเงิน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะรับผิด ชดใช้ดอกเบี้ยให้อีกในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของจำนวนเงินทต้องจ่าย ทั้งนี้ นับแต่▇▇▇▇▇▇ครบกำหนดชำระ
13. การบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย
13.1 ผู้เอาประกันภัยมี▇▇▇▇▇บอกเลิก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ โดยการ▇▇▇▇▇▇▇▇เป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇▇▇▇บริษัท
และมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับเบี้ยประกันภัยคืน หลังจากหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้ บังคบมาแล้วออกตามอัตราเบี้ยประกันภัยระยะสั้นตามตารางที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
ตารางอัตราเบี้ยประกันภัยระยะสั้น
ระยะเวลาประกันภัย (ไม่เกิน/เดือน) | ร้อยละของเบี้ยประกันภัยเต็มปี |
1 | 15 |
2 | 25 |
3 | 35 |
4 | 45 |
5 | 55 |
6 | 65 |
7 | 75 |
8 | 80 |
9 | 85 |
10 | 90 |
11 | 95 |
12 | 100 |
13.2 บริษทมี▇▇▇▇▇บอกเลิก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ โดย▇▇▇▇▇▇▇▇ล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์▇▇▇▇▇▇▇▇น้อยกว่า 30 วันโดยทาง ไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย หากปรากฏหลักฐานชัดเจนต่อบริษัทว่าผู้ได้รับความคุ้มครองได้กระทำการ
โดยทุจริตเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการประกันภัยนี้ ในกรณีนี้บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอา ประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคบมาแล้วออกตามส่วน
ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจากการกระทำดังกล่าวข้างต้น
14. การระงบข้อพิพาทโดยอนญาโต▇▇▇▇▇▇▇
ในกรณีที่มีข้อพิพาท ข้อขัดแย้ง หรือข้อเรียกร้องใดๆ ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ ระหว่างผู้มี▇▇▇▇▇เรียกร้องตาม
กรมธรรม์ประกันภัยกับบริษัท และหากผู้มี▇▇▇▇▇เรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇ และเห็นควรยุติข้อพิพาทนั้นโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการ บริษทตกลงยินยอมและใหทำการวินิจฉัยชี้ขาดโดยอนุญาโตตุลาการตาม▇▇▇▇▇▇▇สำนักงานคณะกรรมการกำกับและ▇▇▇▇▇▇▇▇ การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ
15. ระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุ้มครอง (Waiting Period)
บริษทจะไม่จ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇สำหรับการเจบป่วยใดๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาตามที่กำหนดไว้
ในแต่ละข้อตกลงคุ้มครอง และ/หรือ เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัย หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับเป็น ครั้งแรกตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
16. การเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇โดยฉ้อฉล
บริษทจะไม่รับผดสำหรับการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇อันเกิดจากการฉ้อฉลหรือทุจริตของผู้เอาประกันภัย ผู้ได้รับความ
คุ้มครอง ผู้รับประโยชน์ หรือตัวแทนของบคคลดังกล่าว ▇▇▇▇▇▇ใช้วิธีการหรือเครื่องมือ▇▇▇▇▇▇▇▇ใดๆ เพื่อให้▇▇▇▇▇▇▇▇ประโยชน์
ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ และบริษัทมีสิทธบอกเลิก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ทันที ในกรณีนี้บริษทจะคืนเบี้ยประกันภัย ให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ใช้บังคบมาแล้วออกตามส่วน
17. ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
บริษทอาจจะไม่รับผิด▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ เว้นแต่ผู้ได้รับความคุ้มครอง ผู้รับประโยชน์ หรือ
ตัวแทนของบุคคลดังกล่าวแล้วแต่กรณี ได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇และเงื่อนไขแห่ง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
18. ▇▇▇▇▇▇▇▇ขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย (Free Look Period)
หากผู้เอาประกันภัย▇▇▇▇▇▇▇จะยกเลิก▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผู้เอาประกันภัยมี▇▇▇▇▇ขอยกเลิกกรมธรรม์ ประกันภัยและส่งคน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇บริษทภายใน 15 วัน นับตั้งแต่▇▇▇▇▇▇ได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัท
เว้นแต่บริษัทได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ต้องส่งคนื กรมธรรม์ประกันภัยให้แก่บริษัท ทั้งนี้ ให้▇▇▇▇▇▇กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ไม่มีผลใช้บังคับนับตั้งแต่วันเริ่มต้นของระยะเวลา ประกันภัยตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย โดยบริษัทไม่ต้องรับผดต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ
ที่เกิดขึ้นภายใต้▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ และบริษทจะคืนเบี้ยประกันภัย▇▇▇▇▇▇รับมาทั้งหมดให้กับผู้เอาประกันภัยตามวิธีการ ▇▇▇▇▇▇ตกลงร่วมกัน โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
▇▇▇▇▇▇▇ 3 ข้อยกเว้นทั่วไป
การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองโรคหรือการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งหมดหรือบางส่วน อันเนื่องมาจาก เหตุต่างๆ หรือเกิดขึ้นในเวลาดังต่อไปนี้
1. โรคเอดส์ หรือกามโรคหรือโรคติดต่อทางเพศ▇▇▇▇▇▇▇▇
2. การเป็นโรคใดๆ ดังกล่าวของผู้ได้รับความคุ้มครองอันเป็นผลจากการติดยา หรือสารเสพติด หรือแอลกอฮอล์
3. การตรวจรักษาที่ไม่ใช่แผนปัจจุบัน รวมถึงแพทย์ทางเลือก
4. สภาพที่เป็น▇▇▇▇▇▇การเอาประกนภัย โรคเรื้อรัง การบาดเจ็บหรือการ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ยังมิได้รักษาให้หายก่อนวันทำ▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ การตรวจรักษาภาวะที่เป็นมาแต่กำเนิด (Congenital) หรือปัญหาด้านการพัฒนาการ หรือโรคทางพันธกรรม
▇▇▇▇▇▇▇ 4 ข้อตกลงคุ้มครอง
ขณะที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคบ ภายใต้ข้อกำหนดของเงื่อนไขข้อตกลงคุ้มครองของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
หากผู้ได้รับความคุ้มครองเจ็บป่วยด้วยโรค▇▇▇▇▇▇รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยเมื่อพ้นระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุ้มครอง
บริษทจะจ่ายเงน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตามจำนวนเงนเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับข้อตกลงคุ้มครอง ดังต่อไปนี้
ข้อตกลงคุ้มครอง ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชยปลอบขวัญ กรณีเป็นผู้ป่วยใน
ระหว่างที่▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇มีผลบังคับ และเมื่อพ้นกําหนดระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุ้มครอง (Waiting Period) ตามที่ระบุไว้สําหรับ
โรคแต่ละโรคตามที่ระบุไว้ในตารางของข้อตกลงคุ้มครองนี้ หากผู้ได้รับความคุ้มครองต้องเข้ารบ (IPD) ของโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล ด้วยโรคใดโรคหนึ่งที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้
การรักษาพยาบาลเป็นผป่วยใน
โรค▇▇▇▇▇▇รับความคุ้มครอง | ระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุ้มครอง (Waiting Period) |
โรคติดต่อที่มียุงเปนพาหะ ได้แก่ 1. โรคไข้เลือดออกเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever) 2. โรคติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika Virus Disease) 3. โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis) 4. โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิ▇▇▇▇▇▇▇▇ (Chikungunya) 5. โรคไข้จับสั่น (Malaria) | 15 |
และทำใหผู้ได้รับความคุ้มครองต้องเข้ารบการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลในฐานะผป่วยในติดต่อกันไม่น้อยกว่า ... 3 ... วัน
ซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ บริษทจะจ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชยเงิน
ปลอบขวัญให้แก่ผู้ได้รับความคุ้มครอง ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในตาราง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
▇▇▇▇▇▇▇ ผู้ได้รับความคุ้มครองต้องมีใบรับรองแพทย์ และผลตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบติการยืนยันว่าผู้ได้รับความคุ้มครองเจบป่วย ด้วยโรคตามที่ระบุไว้ในตารางของข้อตกลงคุ้มครองนี้
หากบริษทจ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ของโรคนั้นๆ ครบถ้วนแล้ว ความคุ้มครองของโรคดังกล่าวสำหรับผู้ได้รับความคุ้มครองแต่ละราย ถือเป็นอันสิ้นสุดทันที
เอกสารแนบ สำหรับ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชยปลอบขวัญ กรณีเป็นผู้ป่วยใน
“โรคและระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุ้มครอง”
ชื่อโรค | คำ▇▇▇▇▇▇▇▇ | ระยะเวลา▇▇▇▇▇▇ คุ้มครอง |
โรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ ได้แก่ 1. โรคไข้เลือดออกเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever) 2. โรคติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika Virus Disease) 3. โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis) 4. โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิ▇▇▇▇▇▇▇▇ (Chikungunya) 5. โรคไข้จับสั่น (Malaria) | 1.โรคไข้เลือดออกเดงกี หมายถึง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever) ชนิดที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา หมายถึง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika Virus-ZIKV) มียุงลาย (Aedes) เป็นพาหะนำโรค โดยเชื้อไวรัสซิกาจัดอยู่ในวงศ์ (Family) Flaviviridae ตระกูล (Genus) Flavivirus มีรหสั พันธุกรรมชนิด▇▇▇▇▇▇▇▇เอสายเดยว 3.โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี หมายถึง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Japanese encephalitis virus (JEV) โดยมียุงรำคาญเปนพาหะนำโรค 4.โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิ▇▇▇▇▇▇▇▇ หมายถึง โรคที่เกิดจากร่างกายติดเชื้อไวรัส ชื่อ ชิ▇▇▇▇▇▇▇▇ไวรัส (Chikungunya virus หรือ ย่อว่า CHIK V) ซึ่งเป็นไวรัสในตระกูล Togaviridae 5.โรคไข้จบสั่น (Malaria) หรือ ไข้ป่า หมายถึง โรคไข้จบสั่น (Malaria) หรืออีกหลายๆ ชื่อ คือ ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข้▇▇▇▇เย็น ไข้ดอกสัก เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อโปรโต ซัวพลาสโมเดียม (Plasmodium) ที่ก่อโรคในมนุษย์มีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ 1. Plasmodium falciparum 2. Plasmodium vivax 3. Plasmodium ovale 4. Plasmodium malariae 5. Plasmodium knowlesi | 15 |
ข้อตกลงคุ้มครอง
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชยรายว กรณเี ป็ นผู้ป่ วยใน
ระหวา่ งท่ีกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ีมีผลบงั คบ
และเม่ือพน
กาํ หนดระยะเวลา▇▇▇▇▇▇คุม
ครอง (Waiting Period) ตามที่ระบุไวส
าหรับ
โรคแต่ละโรคตามที่ระบุไวใ้ นตารางของขอ
ตกลงคุม
ครองน้ี หากผไู้ ดร้ ับความคุม
ครองตอ
งเขา้ รับการรักษาพยาบาลเป็ นผปู้ ่ วยใน
(IPD) ของโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล ดว้ ยโรคใดโรคหน่ึงท่ีระบุไวใ้ นตารางดา้ นล่างน้ี
โรคทไี่ ด้รับความคุ้มครอง | ระยะเวลาทไ่ี ม่คุ้มครอง (Waiting Period) |
โรคติดต่อที่มียงุ เป็ นพาหะ ไดแ้ ก่ 1. โรคไขเ้ ลือดออกเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever) 2. โรคติดเช้ือไวรัสซิกา (Zika Virus Disease) 3. โรคไขส้ มองอกเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis) 4. โรคไขปวดขอยงลาย หรือโรคชิคุนกนยา (Chikungunya) 5. โรคไขจ้ บั สนั่ (Malaria) | 15 |
และ▇▇▇ ใหผ
ไู้ ดร้ ับความคุม
ครองตอ้ งเขา้ รบั การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลในฐานะผปู้ ่ วยในติดต่อกน
ไม่นอ
ยกวา
... 1 ... วน
ซ่ึงเกิดข้ึนจากการรักษาพยาบาลตามความจาํ เป็ นทางการแพทยแ์ ละมาตรฐานทางการแพทย์ บริษทจะเริ่มจ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชย
รายวน
ตามจาํ นวนเงินเอาประกน
ภยั ที่ระบุไวใ้ นตารางกรมธรรมป
ระกนภย
สาํ หรับการพกั รักษาตวั ของผไู้ ดร้ ับความคุม
ครอง
ต้งั แต่วน
ที่ ... 1 ... ของการพกั รักษาตว
เป็ นตน
ไป โดยแต่ละโรคจ่ายชดเชยรายวน
สูงสุดไม่เกิน ... 30 ... วน
นบจากวนแรกที่เขา
พกรักษาตวั เป็ นผปู้ ่ วยใน
ท้งั น้ี ผไู้ ดร้
ความคุม
ครองตอ
งมีใบรับรองแพทย์ และผลตรวจวน
ิจฉยั ทางหอ
งปฏิบต
ิการยน
ยนวา่ ผไู้ ดร้ ับความคุม
ครองเจบ
ป่ วย
ดว้ ยโรคตามที่ระบุไวใ้ นตารางของขอ
ตกลงคุม
ครองน้ี
หากบริษท
จ่ายผลประโยชนข
องโรคน้น
ๆ ครบถว้ นแลว
ความคุม
ครองของโรคดงั กล่าวสาํ หรับผไู้ ดร้ ับความคุม
ครองแต่ละราย
ถือเป็ นอนสน้ิ สดุ ทนที
เอกสารแนบ ส˚าห▇▇▇▇▇ประโยชน์ชดเชยรายวน กรณีเป็ นผู้ป่ วยใน
“โรคและระยะเวลาทไี่ ม่คุ้มครอง”
ชื่อโรค | คา▇▇▇▇▇▇▇▇ | ระยะเวลาทไม่ คุ้มครอง |
โรคติดต่อที่มียงุ เป็ นพาหะ ไดแ้ ก่ 1. โรคไขเ้ ลือดออกเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever) 2. โรคติดเช้ือไวรัสซิกา (Zika Virus Disease) 3. โรคไขส้ มองอกเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis) 4. โรคไขปวดขอยงลาย หรือโรคชิคุนกนยา (Chikungunya) 5. โรคไขจ้ บั สน่ั (Malaria) | 1.โรคไขเ้ ลือดออกเดงกี หมายถึง โรคท่ีเกิดจากการติดเช้ือไวรัสเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever) ชนิดที่มียงลายเป็ นพาหะนาโรค 2.โรคติดเช้ือไวรัสซิกา หมายถึง โรคท่ีเกิดจากการติดเช้ือไวรัสซิกา (Zika Virus-ZIKV) มียงลาย (Aedes) เป็ นพาหะ▇▇▇ ▇▇▇ โดยเช้ือไวรัสซิกาจดั อยใู่ นวงศ์ (Family) Flaviviridae ตระก▇▇ (Genus) Flavivirus มีรหสั พนธุกรรมชนิดอาร์เอน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ 3.โรคไขส้ มองอกั เสบ เจ อี หมายถึง โรคที่เกิดจากการติดเช้ือไวรัส Japanese encephalitis virus (JEV) โดยมียงุ รําคาญเป็ นพาหะนาโรค 4.โรคไขป้ วดขอ้ ยงุ ลาย หรือ โรคชิคุนกนุ ยา หมายถึง โรคที่เกิดจากร่างกายติดเช้ือไวรัส ชื่อ ชิคุนกนยาไวรัส (Chikungunya virus หรือ ยอ่ วา่ CHIK V) ซ่ึงเป็ นไวรัสในตระก▇▇ Togaviridae 5.โรคไขจ้ บั สน่ั (Malaria) หรือ ไขป้ ่ า หมายถึง โรคไขจ้ บั สนั่ (Malaria) หรืออีกหลายๆ ชื่อ คือ ไขป้ ่ า ไขป้ ้าง ไข▇▇ ▇▇▇เยน็ ไขด้ อกสกั เป็ นโรคที่เกิดจากการติดเช้ือโปรโต ซวั พลาสโมเดียม (Plasmodium) ท่ีก่อโรคในมนุษย▇▇ ▇อยู่ 5 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. Plasmodium falciparum 2. Plasmodium vivax 3. Plasmodium ovale 4. Plasmodium malariae 5. Plasmodium knowlesi | 15 |
สรุปเงื่อนไข ข้อตกลงคุ้มครอง ข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกนภัย
กรมธรรม์ประกน
ภัยแบบระบุโรค (ขายผ่านทางอเลก
ทรอนิกส์ (Online))
เงื่อนไขทวไปและข้อกา˚ หนด
1. การแจ้งและการเรียกร้อง
ผไู้ ดร้ ับความคุม
ครอง หรือตวั แทนของผไู้ ดร้ ับความคุม
ครองแลว้ แต่กรณี จะตอ
งแจง้ ใหบ
ริษท
ทราบ▇▇▇▇▇▇เจ็บป่ วย▇▇▇▇▇▇เป็ น
เหตุแห่งการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตามกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ีโดยไม่ชกชา
ในกรณีที่มีการเสียชีวต
ตองแจง้ ใหบ
ริษท
ทราบ
ทน▇▇ ▇▇▇
แต่จะพิสูจนไ์ ดว้ า่ มีเหตจุ า˚ เป็ นอน
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇แจง้ ใหบ
ริษท
ทราบดงั ▇▇▇▇▇ก
ล่าวมาแลว้ ขา้ งตน
ไดแ้ ต่ไดแ้ จง
โดยเร็วท่ีสุดเท่าที่▇▇▇▇▇▇จะกระทา˚ ไดแ้ ลว้
2. การส่งหลกฐานการเรียกร้อง
ในกรณีการเรียกร้องผลประโยชนต์ ามกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ี ผไ้ ดร้ ับความคุม
ครองหรือตวั แทนของผไ้ ดร้ ับความคุม
ครอง
แลว้ แต่กรณี จะตอ
งส่งหลก
ฐานดงั ต่อไปน้ีใหแ
ก่บริษท
โดยค่าใชจ้ ่ายของตนเอง
1. แบบฟอร์มการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇กา˚ หนดโดยบริษท
2. ใบรับรองทางการแพทย์ และ/หรือ ผลตรวจวน
ิจฉยั ทางหอ
งปฏิบต
ิการ
3. เอกสารที่บริษทร้องขอเพมเิ่ ติมตามความจา˚ เป็ นในการเรียกร้องผลประโยชน
โดยใหส
่งหลก
ฐานขา้ งตน
ภายใน 30 วนนบ
จากวน
▇▇▇▇▇ร้ ับการวน
ิจฉยั จากแพทย์ ระบุวา่ เป็ นภาวะหรือโรคตามขอ้ ตกลง
คุม
ครอง และ/หรือ เอกสารแนบทา้ ยกรมธรรมป
ระกนภย
การไม่ส่งหลก
ฐานภายในระยะเวลาดงั กล่าว ไม่ทา˚ ให▇
▇▇▇▇ในการเรียกร้องเสียไป หากแสดงใหเ้ ห็นไดว้ า่ มีเหตุอน
▇▇▇▇▇
▇▇▇ไม่▇▇▇▇▇▇ส่งหลก
ฐานดงั กล่าวไดภ
ายในระยะเวลาที่กา˚ หนด แตไ่ ดส
่งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทา˚ ไดแ้ ลว
3. การตรวจทางการแพทย์
บริษท
มี▇▇▇▇▇ตรวจสอบประวตั ิการรักษาพยาบาลและการตรวจวน
ิจฉยั ของผไ้ ดร้ ับความคุม
ครองเท่าที่จา˚ เป็ นกบ
การประกน
ภยั น้ี
และมี▇▇▇▇▇ทา˚ การชนสตรพ▇▇▇ กศพในกรณที่ี มเหตี ุจา˚ เป็ นและไมเป่ ็ นการขดั ต่อกฎหมาย โดยค่าใชจ้ ่ายของบริษท
ในกรณีที่ผไ้ ดร้ ับความคุม
ครองไม่ยน
ยอมใหบ
ริษท
ตรวจสอบประวตั ิการรักษาพยาบาลและการตรวจวน
ิจฉยั ของผไ้ ดร้ ับความ
คุมครองเพ่ือประกอบการพิจารณาจ่ายค่าผลประโยชน ้น
บริษท
อาจปฏิเสธความคุม
ครองตามกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ีแก่ผไู้ ดร้ ับ
ความคุมครองได
4. ระยะเวลาทไี่ ม่คุ้มครอง (Waiting Period)
บริษท
จะไมจ่ ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตามกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ีสา˚ หรับการเจบ
ป่ วยใดๆ ที่เกิดข้ึนในระยะเวลาตามที่กา˚ หนดไว
ในแต่ละขอ
ตกลงคุม
ครอง และ/หรือ เอกสารแนบทา้ ยกรมธรรมป
ระกนภย
หลงั จากที่กรมธรรมป
ระกน
ภยั มีผลบงั คบ
เป็ น
คร้ังแรกตามที่ระบุไวใ้ นตารางกรมธรรมป
5. การเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇โดยฉ้อฉล
ระกนภย
บริษท
จะไม่รับผด
สา˚ หรับการเรียกร้อง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇อน
เกิดจากการฉอ
ฉลหรือทุจริตของผเู้ อาประกนภย
ผไู้ ดร้ ับความ
คุม
ครอง ผ▇▇▇ ▇บประโยชน์ หรือตวั แทนของบุคคลดงั กล่าว ▇▇▇▇▇ใ้ ชว้ ธิ ีการหรือเคร่ืองมือ▇▇▇▇▇
▇▇ใดๆ เพื่อให▇▇ ▇▇▇ ▇▇▇▇ประโยชน
ตามกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ี และบริษท
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ระกน
ภยั น้ีไดท
▇▇▇ ในกรณีน้ีบริษท
จะคืนเบ้ียประกนภย
ใหแ
ก่ผเู้ อาประกน
ภยั โดยหก
เบ้ียประกน
ภยั สา˚ หรับระยะเวลาท่ีกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ีไดใ้ ชบ
งั คบ
มาแลว้ ออกตามส่วน
6. ▇▇▇▇▇▇▇▇ขอยกเลกกรมธรรม์ประกนภัย (Free Look Period)
หากผเู้ อาประกน
ภยั ประสงค▇▇ ▇ยกเลิกกรมธรรมป
ระกน
ภยั น้ีดว้ ยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผเู้ อาประกน
ภยั มี▇▇▇▇▇ขอยกเลิกกรมธรรม
ประกน
ภยั และส่งคืนกรมธรรมป
ระกน
ภยั มายงั บริษท
ภายใน 15 วน
นบต้งั แต่วน
▇▇▇▇▇ร้ ับกรมธรรมป
ระกน
ภยั จากบริษท
เวน
แต่บริษท
ไดอ
อกกรมธรรมป
ระกน
ภยั ใหแ
ก่ผเู้ อาประกน
ภยั โดยใชว้ ธิ ีการทางอิเลก
ทรอนิกส์ ผเู้ อาประกน
ภยั ไม่ตอ
งส่งคืน
กรมธรรมป
ระกน
ภยั ใหแ
ก่บริษท
ท้งั น้ี ให▇
▇▇▇▇▇ กรมธรรมป
ระกน
ภยั ▇▇▇
▇▇▇ไม่มีผลใชบ
งั คบนบ
ต้งั แตว่ น
เริ่มตน
ของระยะเวลา
ประกน
ภยั ตามท่ีระบุไวใ้ นตารางกรมธรรมป
ระกนภย
โดยบริษท
ไม่ตอ
งรับผด
ต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ
ท่ีเกิดข้ึนภายใตก
รมธรรมป
ระกน
ภยั น้ี และบริษท
จะคืนเบ้ียประกน
ภยั ▇▇▇▇▇ร้ ับมาท้งั หมดใหกบ
ผเู้ อาประกน
ภยั ตามวธิ ีการ
▇▇▇▇▇ต
กลงร่วมกน
โดยไม่หก
ค่าใชจ้ ่ายใดๆ ท้งั สิ้น
ข้อยกเว้นทวไป
การประกน
ภ นีไ้ ม่คุ้มครองโรคหรือการเจบ
ป่ วยด้วยโรคทเ่ี กด
ขึน
โดยตรงหรือโดยอ้อม ท้งั หมดหรือบางส่วน
อนเนื่องมาจากเหตุต่างๆ หรือ▇▇▇
ขึน
ในเวลาดงั ต่อไปนี
1. โรคเอดส์ หรือกามโรคหรือโรคตดต่อทางเพศสัมพนธ์
2. การเป็ นโรคใดๆ ดงั กล่าวของผู้ได้รับความคุ้มครองอนั
เป็ นผลจากการตดยา หรือสารเสพตด
หรือแอลกอฮอล์
3. การตรวจรักษาทไ่ี ม่ใช่แผนปัจจุบน รวมถึงแพทยทาง์ เลือก
4. สภาพทเี่ ป็ น▇▇▇▇▇▇การเอาประกนภัย โรคเรื้อรัง การบาดเจบหรือการเจ็บป่ วยทยงมไดรั้ กษาใหหายก่้ อนวนทาสญ▇▇▇
ประกน
ภัย การตรวจรักษาภาวะทเี่ ป็ นมาแต่กาเนิด (Congenital) หรือปัญหาด้านการพฒ
นาการ หรือโรคทางพน
▇▇▇▇▇▇
ความคุ้มครอง
1. ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชยปลอบขวญ
กรณีเป็ นผปู้ ่ วยใน
2. ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ชดเชยรายวนั
โรคทไี่ ด้รับความคุ้มครอง
กรณีเป็ นผปู้ ่ วยใน
โรคติดต่อที่มียงุ เป็ นพาหะ ไดแ้ ก่
1. โรคไขเ้ ลือดออกเดงกี (Dengue Hemorrhagic Fever)
2. โรคติดเช้ือไวรัสซิกา (Zika Virus Disease)
3. โรคไขสมองอกเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis)
4. โรคไขปวดขอยงลาย หรือโรคชิคุนกนยา (Chikungunya)
5. โรคไขจ้ บสน (Malaria)
*** ความคุม
ครองและเงื่อนไขอื
ๆ ท่ีละเอียดครบถว้ น ใหเ้ ป็ นไปตามกรมธรรมป
ระกน
ภยั แบบระบุโรค▇▇▇▇▇ร้ ับความเห็นชอบ
จากสา˚ นก
งานคณะกรรมการกา˚ กบ
และ▇▇▇▇▇▇▇▇การประกอบธุรกิจประกนภย
(คปภ.) ***
หมายเหตุ: เอกสารน้ีเป็ นเพียงเอกสารสรุปเงื่อนไขทวั่ ไปและขอ
กา˚ หนด ความคุม
ครองและขอ
ยกเวน
บริษท
▇▇▇▇▇▇เลือก
ความคุม
ครองในการจด
ทา˚ แผนประกน
ภยั เฉพาะได้ ผไู้ ดร้ ับความคุม
ครองควรศึกษารายละเอียดของกรมธรรมป
ระกน
ภยั และ
แผนประกน
ภยั ▇▇▇▇▇ร้
อยา่ งถี่ถว้ น
