๗.๗ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยินยอมให้สำนักงานทำหน้าที่หักเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการ สาธารณสุขให้กับหน่วยบริการอื่น (Clearing House) ในกรณีที่ผู้มีสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเข้ารับ บริการ ณ หน่วยบริการอื่น...
๑
สัญญาให้บริการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
.................................................
สัญญาเลขที่ สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ ๑๒๐ ม.๓ ชั้น ๒ – ๔ อาคารรวม หน่วยงานราชการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ ▇▇▇▇▇ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ซอย - ถนน แจ้งวัฒนะ แขวง ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่ จังหวัด กรุงเทพมหานคร เมื่อ▇▇▇▇▇▇ เดือน พ.ศ. ระหว่าง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇▇▇ ผู้ช่วยเลขาธิการ ปฏิบัติงานแทน เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามคำสั่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่
๑๗๕/๒๕๖๔ ลง▇▇▇▇▇▇ ๘ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “สำนักงาน” ฝ่ายหนึ่ง กับ ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติ บุ คคล ณ มี สำนั กงาน▇▇▇▇ ▇ ▇▇▇ เลขที่ ถนน แขวง/ตำบล เขต/อำเภอ จังหวัด โดย ผู้▇▇▇▇▇▇▇ลงนามผูกพันนิติบุคคล ปรากฏตามหนังสือรับรอง ของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท เลขที่ ลง▇▇▇▇▇▇ เดือน พ.ศ. (และหนังสือมอบอำนาจ ลง▇▇▇▇▇▇ เดือน พ.ศ. ) แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาต ให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลชื่อ ตั้งอยู่เลขที่ ซอย ถนน แขวง/ตำบล เขต/อำเภอ จังหวัด ตามใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล เลขที่ ลง▇▇▇▇▇▇ เดือน พ.▇. ▇▇▇▇▇▇▇ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ และเครือข่ายหน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการ” อีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันมีข้อความ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ บทนิยาม
เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่นในสัญญานี้
“ผู้มี▇▇▇▇▇” หมายความว่า บุคคลผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุขตามกฎหมายว่าด้วย หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“บริการสาธารณสุข” หมายความว่า บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งให้โดยตรง แก่บุคคล เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพ ที่จำเป็นต่อสุขภาพ และการดำรงชีวิต ทั้งนี้ ให้รวม▇▇▇▇▇▇บริการทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตามกฎหมายว่าด้วย การประกอบโรคศิลปะ
“หน่วยบริการ” หมายความว่า สถานบริการ▇▇▇▇▇▇ขึ้นทะเบียนไว้ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ
๒
“ประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข” หมายความว่า ประเภทและขอบเขตของบริการ สาธารณสุขตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือตาม▇▇▇▇▇▇▇กระทรวงสาธารณสุขว่าด้วย หลักประกันสุขภาพหรือตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือตามมติคณะกรรมการ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ให้ผู้มี▇▇▇▇▇พึงได้รับความคุ้มครองค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน” หมายถึง คณะกรรมการควบคุมคุณภาพ และมาตรฐานบริการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“เจ็บป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า เจ็บป่วยฉุกเฉินซึ่งผู้มี▇▇▇▇▇มี▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุข จากสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ”
ถ้อยคำอื่นใด▇▇▇▇▇▇▇▇ระบุความหมายหรือบทนิยามไว้ในสัญญานี้ ให้พิจารณาความหมาย ของถ้อยคำนั้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข้อ ๒ เอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
เอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
๒.๑ ผนวก ๑ เอกสารการสมัคร/การประเมินและข้อ มูล พื้น ฐ า น ห น่ว ย บ ▇▇▇ า ร และเครือข่ายหน่วยบริการในรูปอิเล็กทรอนิกส์ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ จำนวน ( ) หน้า
๒.๒ ผนวก ๒ ประเภทและรายชื่อบุคลากรประจำหน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ จำนวน ( ) หน้า
๒.๓ ผนวก ๓ การให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จำนวน ( ) หน้า
๒.๔ ผนวก ๔ ตัวอย่างแสดงวิธีการคำนวณค่าปรับ▇▇▇▇▇▇▇▇ (ข้อ ๑๕.๒) จำนวน ( ) หน้า
๒.๕ ผนวก ฯลฯ ความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญาที่ขัดหรือแย้งกับข้อความในสัญญานี้ ให้ใช้ข้อความ
ในสัญญานี้บังคับ และในกรณีที่เอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกันเอง คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะต้องปฏิบัติ ตามคำวินิจฉัยของสำนักงาน คำวินิจฉัยของสำนักงานให้ถือเป็นที่สุด และคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่มี▇▇▇▇▇ เรียกร้องค่าชดเชย ค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมจากสำนักงานทั้งสิ้น
ข้อ ๓ ข้อตกลงให้บริการสาธารณสุข
๓.๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเป็นหน่วยบริการได้รับขึ้นทะเบียนตามกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ ที่เกี่ยวกับเกณฑ์การขึ้นทะเบียนและหรือเกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็น หน่วยบริการ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหรือตามที่คณะกรรมการ หรือสำนักงานกำหนด เพื่อให้บริการ สาธารณสุขในกิจกรรมบริการผู้ป่วยใน หรือกิจกรรมบริการผู้ป่วยนอก หรือกิจกรรมบริการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค หรือกิจกรรมบริการอื่น ๆ
ประเภทหน่วยบริการ
□ หน่วยบริการประจำ
หน่วยบริการที่รับการส่งต่อ คือ ………………………………………………………………………………….
๓
□ หน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇
□ หน่วยบริการที่รับการส่งต่อ
□ ทั่วไป
□ เฉพาะด้าน
คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ ตาม▇▇▇▇▇ประโยชน์ ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ ตาม ประเภทของหน่วยบริการ ดังต่อไปนี้
(๑) หน่วยบริการประจำตกลงให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇อย่างเป็นองค์รวมในการ จัดบริการสาธารณสุขระดับ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต รวมทั้งการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและ เงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ ตามที่สำนักงานตรวจสอบได้ในฐานข้อมูลของผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำนี้ไว้
หน่วยบริการประจำต้องมีหน่วยบริการที่รับการส่งต่อมา▇▇▇▇▇ภายใน ๙๐ (เก้าสิบ) วัน นับแต่ได้รับการแจ้งจากหน่วยบริการที่รับการส่งต่อว่าไม่▇▇▇▇▇▇▇จะเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อของหน่วย บริการประจำดังกล่าว และแจ้งผลการจัดหาต่อสำนักงาน หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วยังไม่▇▇▇▇▇▇ จัดหาหน่วยบริการที่รับการส่งต่อ▇▇▇▇▇▇▇▇ อันเป็นเหตุให้หน่วยบริการประจำนั้นไม่มีหน่วยบริการที่รับการ ส่งต่อ ให้▇▇▇▇▇▇หน่วยบริการประจำนั้นขาดคุณสมบัติการเป็นหน่วยบริการประจำตามหลักเกณฑ์ วิธีการและ เงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ เนื่องจากไม่มีเครือข่ายหน่วยบริการ เพื่อการส่งต่อผู้รับบริการไปรับการบริการสาธารณสุขในกรณีที่ เกินขีดความ▇▇▇▇▇▇ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการและเครือข่าย หน่วยบริการ ที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด
กรณีหน่วยบริการประจำ▇▇▇▇▇▇▇เปลี่ยนแปลงหน่วยบริการที่รับการส่งต่อ ให้ทำเป็นหนังสือ แจ้งต่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติก่อนถึงกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาตามข้อ ๙.๑ หรือข้อ ๙.๒ แล้วแต่กรณี ไม่น้อยกว่า ๑๘๐ (หนึ่งร้อยแปดสิบ) วัน โดยให้มีผลใน▇▇▇▇▇▇ ๑ ▇▇▇▇▇▇ของปีงบประมาณถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็น▇▇▇▇▇▇อาจ▇▇▇▇▇▇▇▇ตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าวได้และต้องได้รับความเห็นชอบ จากสำนักงาน
(๒) หน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇ตกลงให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ในพื้นที่หรือในความรับผิดชอบของ หน่วยบริการประจำในเครือข่ายของหน่วยบริการขั้นพื้นฐานระดับ▇▇▇▇▇▇▇ด้านเวชกรรม หรือทันตกรรม ขั้นพื้นฐานได้อย่างเป็นองค์รวม ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการและ เครือข่ายหน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่สำนักงานตรวจสอบได้ ในฐานข้อมูลของผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำนี้ไว้
(๓) หน่วยบริการที่รับการส่งต่อตกลงให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇โดยจัดบริการสาธารณสุข ระดับทุติยภูมิ ▇▇▇▇ภูมิ หรือเฉพาะด้าน ให้แก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ได้รับการส่งต่อ หรือได้รับความเห็นชอบมาจากหน่วยบริการ ประจำ หรือมาจากหน่วยบริการอื่น หรือจากสำนักงาน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วย บริการและเครือข่ายหน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่สำนักงานตรวจสอบได้ ในฐานข้อมูลของผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ได้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำนี้ไว้
๔
ทั้งนี้หน่วยบริการที่รับการส่งต่อตกลงให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ของหน่วยบริการประจำ กรณีที่หน่วยบริการประจำในเครือข่ายปิดทำการ หรือไม่เปิดให้บริการตามวันและเวลาที่แจ้งไว้ตามข้อ ๓.๒ ด้วย
๓.๒ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงเปิดทำการและให้บริการแก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇น้อยกว่าวันและ เวลาที่กำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
๓.๒.๑ กรณีหน่วยบริการประจำ และ/หรือ▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇น้อยกว่า ๕๖ (ห้าสิบหก) ชั่วโมง
ต่อสัปดาห์
(๑) ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ - ▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇
(๒) ▇▇▇▇▇▇▇▇ - ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇
๓.๒.๒ กรณีหน่วยบริการที่รับการส่งต่อทั่วไป และ/หรือเฉพาะด้าน ไม่น้อยกว่า ๕๖
(ห้าสิบหก) ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
(๑) ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ - ▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇
(๒) ▇▇▇▇▇▇▇▇ - ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇
กรณีหน่วยบริการที่มีผู้มี▇▇▇▇▇มากกว่า ๑๐,๐๐๐ (หนึ่งหมื่น) คน รวมเวลาเปิดทำการและ ให้บริการแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ ให้เป็นไปตามที่สำนักงานประกาศ กำหนด
กรณีหน่วยบริการไม่เปิดทำการในวันเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ ๓.๒ จะกระทำได้ต่อเมื่อ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้ขอความยินยอมเป็นหนังสือจากสำนักงานล่วงหน้าก่อนไม่น้อยกว่า ๗ (เจ็ด) วันทำการ และต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากสำนักงานแล้วเท่านั้น และเมื่อคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้รับ ความยินยอมจากสำนักงานแล้ว คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ปิดประกาศประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าก่อน วันปิดทำการไม่น้อยกว่า ๓ (สาม) วัน โดยปิดประกาศไว้ใน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ให้ผู้มี▇▇▇▇▇มองเห็นได้อย่างชัดเจน รวมทั้ง ในการปิดประกาศนั้นต้องแจ้งให้ผู้มี▇▇▇▇▇ทราบว่าในขณะปิดทำการผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ไปเข้ารับบริการ▇▇▇▇▇▇หน่วย บริการหรือสถานบริการใดได้บ้าง
กรณีที่หน่วยบริการไม่เปิดให้บริการตามวันและเวลาที่แจ้งไว้ข้างต้น ทำให้ผู้มี▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇เข้ารับบริการได้ เป็นเหตุให้ผู้มี▇▇▇▇▇ไปรับบริการที่หน่วยบริการที่รับการส่งต่อหรือหน่วยบริการอื่นใด ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนั้นต้องตามจ่ายค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยบริการที่รับการส่งต่อหรือหน่วยบริการอื่น ที่ให้บริการแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่ตามจ่าย คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงยินยอม ให้สำนักงานหักค่าใช้จ่าย▇▇▇▇▇▇▇▇▇ทุกประเภทของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนั้น เพื่อจ่ายให้แก่หน่วยบริการ ที่รับการส่งต่อหรือหน่วยบริการอื่นได้
๓.๓ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงจัดให้มีบุคลากรประจำหน่วยบริการของคู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการ ตลอดเวลาที่เปิดทำการและให้บริการสาธารณสุข ตามประเภทของบุคลากรทางการแพทย์ ตามเอกสารแนบท้ายสัญญาผนวก ๒ ปรับปรุงข้อมูลในระบบข้อมูลพื้นฐานหน่วยบริการ ให้สอดคล้องกับ จำนวนประชากร กิจกรรมบริการ และบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่สำนักงานกำหนด
๓.๔ ภายหลังจากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการลงนามในสัญญานี้แล้ว ต่อมาหากคู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇รับ▇▇▇▇▇▇กิจกรรมหรือแผนงานหรือโครงการที่เป็นการให้บริการสาธารณสุข▇▇▇▇▇▇▇ใน ชุด▇▇▇▇▇ประโยชน์ หรือขอบเขตการให้บริการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือการ▇▇▇▇▇▇กิจกรรมหรือแผนงานหรือโครงการที่เป็นการจ่ายชดเชยตามผลงาน ตามกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ประกาศ ข้อบังคับ คู่มือ แนวทางปฏิบัติ ที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่ต้องทำ นิติกรรมใด ๆ เพิ่มเติมอีก โดยให้▇▇▇▇▇▇กิจกรรมหรือแผนงานหรือโครงการที่ตอบรับ▇▇▇▇▇▇งานที่แนบมาเพิ่มเติม
๕
นั้นเป็นเงื่อนไขหนึ่งของสัญญาให้บริการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้ลงนามเข้าเป็นคู่สัญญากับสำนักงานไว้แต่แรกแล้ว
กรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงรับ▇▇▇▇▇▇กิจกรรมหรือแผนงานหรือโครงการ ของสำนักงานเพิ่มเติมภายหลังลงนามในสัญญานี้ และกิจกรรมหรือแผนงานหรือโครงการนั้น มีลักษณะตามที่ คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนดให้มีการบริหารจัดการเป็นการเฉพาะ หากเป็นกรณีวงเงินสนับสนุนไม่เกิน
๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านบาทถ้วน) ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการทำหนังสือแสดงความ▇▇▇▇ ตอบรับการ▇▇▇▇▇▇งาน หรือกรณีที่มีวงเงินสนับสนุนเกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านบาทถ้วน) ขึ้นไป ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการทำสัญญา▇▇▇▇▇▇งานตามโครงการ ตามแบบที่สำนักงานกำหนด
๓.๕ การที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยัง▇▇ให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇จนสิ้นสุดการรักษา ในครั้งนั้นตามข้อ ๕.๑๓ ไม่เป็นเหตุให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะอ้าง▇▇▇▇▇ใด ๆ ในการต่ออายุสัญญานี้หรือ เพื่อให้สำนักงานเข้าทำสัญญา เพื่อให้ผู้มี▇▇▇▇▇เข้าทำการรับบริการสาธารณสุขในหน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการนั้นต่อไป แต่ประการใด
ข้อ ๔ การตรวจสอบหน่วยบริการหรือการบริการสาธารณสุขด้านต่าง ๆ
๔.๑ หากสำนักงานได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือคณะทำงานหรือมอบหมายให้ ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงาน หรือองค์กรอื่นหรือบุคคลอื่น เพื่อ▇▇▇▇▇▇การตรวจสอบหน่วยบริการหรือการจัดบริการ และให้บริการสาธารณสุขให้แก่ผู้มี▇▇▇▇▇ ให้บุคคลหรือองค์กร▇▇▇▇▇▇รับแต่งตั้งหรือมอบหมายดังกล่าวมี▇▇▇▇▇เข้าไป ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ในการตรวจการปฏิบัติงาน ตรวจยา เวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ หรือเอกสารของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้ตลอดเวลา ที่หน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเปิดทำการ โดยคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะต้อง▇▇▇▇▇ความสะดวก และให้ความช่วยเหลือในการ▇▇▇▇▇▇การนั้นตาม▇▇▇▇▇ และไม่กระทำการใด ๆ ที่▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ขัดขวาง การปฏิบัติหน้าที่ไม่ให้สำเร็จหรือล่าช้าเกิน▇▇▇▇▇ หรือทำให้บุคคล ▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇รับมอบหมายดังกล่าว ได้รับความเสียหาย ต่อเสรีภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน
ทั้งนี้ การที่หน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการ ตรวจสอบ คณะทำงาน ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงาน องค์กรอื่นหรือบุคคลอื่นแล้ว ไม่ทำให้คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการนั้นพ้นความรับผิดชอบ▇▇▇▇▇▇▇▇นี้
๔.๒ บุคคลหรือองค์กร▇▇▇▇▇▇รับแต่งตั้งหรือมอบหมายตามข้อ ๔.๑ มี▇▇▇▇▇▇▇▇จะให้คำปรึกษา แนะนำแก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อ▇▇▇▇▇▇การตามขั้นตอนของกฎหมายในการ สั่งให้คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการ แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือปฏิบัติให้ถูกต้อง▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ได้ และคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการต้องปฏิบัติตามคำสั่งภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบ คณะทำงาน ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงาน องค์กรอื่นหรือบุคคลอื่นไม่มี▇▇▇▇▇แก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญานี้
ข้อ ๕ หน้าที่ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ
เพื่อให้ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพตามที่กำหนดไว้ใน กฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
๕.๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ และมีหน้าที่อื่นตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งปฏิบัติตามกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ หลักเกณฑ์ มติ
๖
คำสั่ง คู่มือหรือแนวปฏิบัติ ของคณะกรรมการ หรือคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน หรือ คณะอนุกรรมการ หรือสำนักงาน ที่กำหนดขึ้นก่อนหรือระหว่างหรือภายหลังที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับและ ให้▇▇▇▇▇▇ กฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ หลักเกณฑ์ มติ คำสั่ง คู่มือหรือแนวปฏิบัติดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่ง ของสัญญานี้ด้วย
ทั้งนี้ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงกับหน่วยบริการอื่น หรือสถานบริการอื่นเป็นอย่างอื่น ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ หรือฝ่าฝืนหน้าที่ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ สำนักงานจะ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ตามข้อความและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้ตกลงกับหน่วยบริการอื่นหรือสถานบริการอื่นนั้น
๕.๒ หน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการที่สำนักงานประกาศกำหนดให้เป็นหน่วยงาน รับคำขอลงทะเบียนเพื่อเลือกหน่วยบริการหรือเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการประจำ ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ สำนักงานกำหนด
๕.๓ กรณีเครือข่ายของหน่วยบริการประจำ เครือข่าย▇▇▇▇▇▇▇ หรือเครือข่ายเพื่อการส่งต่อ ผู้รับบริการ ให้บริการแก่ผู้มี▇▇▇▇▇แทนหน่วยบริการประจำ ในกรณีหน่วยบริการประจำปิดทำการ หรือให้บริการ นอกเวลาทำการของหน่วยบริการประจำ หน่วยบริการเครือข่ายนั้นจะเรียกเก็บค่าบริการจากผู้รับบริการ▇▇▇▇▇▇
๕.๔ สถานบริการ▇▇▇▇▇▇รับขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อระดับ▇▇▇▇ภูมิหรือ เฉพาะด้าน ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด
๕.๕ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ตรวจสอบ▇▇▇▇▇ของผู้รับบริการต้องแจ้ง▇▇▇▇▇ดังกล่าว ให้ ผู้ รั บบ ริ การรับ ท ราบ โดย ห้ าม เรี ยกเก็บ ค่ าบ ริ การจาก ผู้ มี ▇▇ ▇▇▇ห รื อ ผู้ เกี่ ยว ข้ อง และห้ าม กระทำการใด ๆ ที่ชักจูงหรือโน้มน้าวให้ผู้รับบริการสละ▇▇▇▇▇ หรือไม่▇▇▇▇▇▇▇ใช้▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุข ตาม▇▇▇▇▇▇▇▇ผู้รับบริการจะได้รับตามกฎหมาย หรือหากพบว่าผู้รับบริการเป็นผู้มี▇▇▇▇▇ตามกฎหมายว่าด้วย หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
(๑) เป็ นผู้ มี ▇▇ ▇▇▇ของหน่วยบริการหรือเครือข่ายหน่วยบริการของคู่สัญญา
ฝ่ายหน่วยบริการ
(๒) เป็นผู้มี▇▇▇▇▇ของหน่วยบริการอื่นที่เข้ารับบริการในกรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วย
ฉุกเฉิน หรือกรณีที่มีเหตุ▇▇▇▇▇
(๓) เป็นผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ยัง▇▇▇▇▇▇ลงทะเบียน
หากผู้รับบริการได้รับทราบ▇▇▇▇▇ของตน▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จะใช้▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุข ตามกฎหมายในครั้งนั้น ให้ผู้รับบริการเขียนหนังสือแสดง▇▇▇▇▇▇▇▇ขอใช้▇▇▇▇▇ด้วยลายมือตนเองทั้งฉบับไว้เป็น หลักฐาน ทั้งนี้ต้องพิจารณามูลเหตุจูงใจหรือการโน้มน้าวตามวรรคหนึ่งประกอบด้วย และหนังสือแสดง▇▇▇▇▇นั้น ผู้รับบริการจะเพิกถอนเมื่อใดก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือเนื่องจากเป็น▇▇▇▇▇▇▇▇กฎหมายรองรับ หากเป็นกรณีที่นอกเหนือจากวรรคหนึ่งและวรรคสอง และคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องการ เรียกเก็บค่าใช้จ่ายคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องอธิบายให้ผู้มี▇▇▇▇▇หรือผู้เกี่ยวข้องรับทราบรายละเอียดและ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้▇▇▇▇▇ พร้อมทั้งให้ผู้มี▇▇▇▇▇เขียนหนังสือแสดง▇▇▇▇▇ว่าได้รับทราบคำอธิบายและยินยอม ชำระค่าใช้จ่ายไว้เป็นหลักฐานด้วยลายมือของผู้มี▇▇▇▇▇หรือผู้เกี่ยวข้องด้วยตนเอง ทั้งนี้ ต้องพิจารณามูลเหตุจูงใจ
หรือการโน้มน้าวผู้มี▇▇▇▇▇หรือผู้เกี่ยวข้องตามวรรคหนึ่งและวรรคสองประกอบด้วย
๕.๖ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องจัดเตรียม▇▇▇▇▇และห้องสามัญให้แก่ผู้รับบริการอย่างเพียงพอ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่มี▇▇▇▇▇และไม่มีห้องสามัญให้บริการแก่ผู้มี▇▇▇▇▇และได้จัดให้ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ ในห้องพิเศษเพื่อรอ▇▇▇▇▇ตาม▇▇▇▇▇ หรือกรณีจัดให้ผู้รับบริการ▇▇▇ในห้องพิเศษโดยมิใช่ความต้องการของผู้รับบริการ
๗
ในขณะที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมี▇▇▇▇▇และมีห้องสามัญ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ ห้ามคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเรียกเก็บ ค่าใช้จ่ายจากผู้รับบริการ เว้นแต่ผู้รับบริการแสดงความ▇▇▇▇▇▇▇จะ▇▇▇ในห้องพิเศษ ให้คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าห้องพิเศษในส่วนที่เกินจากค่าห้องค่า▇▇▇▇▇สามัญได้เท่านั้น
๕.๗ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ตลอดเวลาที่เปิดทำการ และให้บริการแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ในกรณีอุบัติเหตุ หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือกรณีมีเหตุ▇▇▇▇▇ รวมทั้งผู้มี▇▇▇▇▇ ตามมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕
๕.๘ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ปรับปรุงและบันทึกข้อมูลพื้นฐานหน่วยบริการและ เครือข่ายหน่วยบริการ ตามเอกสารแนบท้ายสัญญาผนวก ๑ ให้เป็นปัจจุบัน
๕.๙ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ส่งรายงาน ข้อมูล สถิติการให้บริการสาธารณสุข ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ การ▇▇▇▇▇▇งานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำหรับผู้มี▇▇▇▇▇ หลักประกันสุขภาพ แห่งชาติประจำปีงบประมาณ และคู่มือบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสำนักงานกำหนด
๕.๑๐ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายหน่วยบริการนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ตามข้อ ๓.๑ (๑) วรรคสองและวรรคสาม ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการแจ้งให้สำนักงานทราบ และในการเปลี่ยนแปลงเครือข่าย หน่วยบริการทุกกรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ปิดประกาศประชาสัมพันธ์ให้ผู้มี▇▇▇▇▇ทราบล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า ๑๕ (สิบห้า) วัน ก่อนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย
๕.๑๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหน้าที่ติดตั้งป้ายสัญลักษณ์หรือป้ายประชาสัมพันธ์ที่แสดง▇▇▇▇▇▇ เป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยใช้วัสดุและรูปแบบของป้าย รวมถึงสถานที่ติดตั้ง ตามที่สำนักงานกำหนด
๕.๑๒ กรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะย้ายที่ตั้งใหม่ ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการแจ้งเป็น หนังสือ▇▇▇▇▇สำนักงานก่อน▇▇▇▇▇▇จะย้ายที่ตั้งไม่น้อยกว่า ๓ (สาม) เดือน และต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ จากสำนักงานก่อน เมื่อได้รับความยินยอมจากสำนักงานแล้ว คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องปิดประกาศและ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่แจ้งล่วงหน้าตามที่กำหนด สำนักงาน ขอ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ที่จะไม่ยินยอมให้ย้ายที่ตั้งใหม่ได้ และหากเกิดความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการที่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการย้ายที่ตั้งใหม่ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องรับผิดชอบความ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เกิดขึ้นทั้งสิ้นโดยไม่โต้แย้งใด ๆ ทั้งนี้ ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน
๕.๑๓ ในกรณีผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇เข้าทำการรักษาพยาบาลจากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตั้งแต่เวลาที่ สัญญานี้มีผลใช้บังคับต่อเนื่องจนถึงวันสิ้นสุดสัญญาตามข้อ ๙.๑ แต่ปรากฏว่าการให้บริการสาธารณสุขในครั้งนั้น ยังไม่สิ้นสุดการรักษาคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยัง▇▇ต้องมีหน้าที่ให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ต่อไปจน สิ้นสุดการ▇▇▇▇▇
▇▇▇วินิจฉัยว่าการให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇สิ้นสุดแล้วหรือไม่ แพทย์ผู้ให้การ รักษาพยาบาลของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะต้องใช้ความรู้และวิจารณญาณตามหลักวิชาการทางการแพทย์ ในการวินิจฉัยอย่างเต็มความ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇เดียวกับที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้ให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้ป่วย หรือผู้ได้รับการตรวจวินิจฉัยคนอื่น ซึ่งได้เข้าทำการรักษาพยาบาลในหน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนั้น
ทั้งนี้ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการฝ่าฝืนข้อ ๕.๑ ถึงข้อ ๕.๑๓ สำนักงานมี▇▇▇▇▇ชะลอการจ่ายเงิน และ/หรือหักค่าใช้จ่าย ตามข้อ ๑๓ และ/หรือข้อ ๑๔ รวม▇▇▇▇▇▇ใช้▇▇▇▇▇บอกเลิกสัญญาได้ด้วย
๘
ข้อ ๖ หลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇
๖.๑ ในขณะทำสัญญานี้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้นำหลักประกันสัญญาเป็น เลขที่ ลง▇▇▇▇▇▇ เดือน พ.ศ เป็นจำนวนเงิน บาท ( ) มา มอบให้แก่สำนักงานเพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇นี้
การวางหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ (๑) หน่วยบริการประจำตามข้อ ๓.๑ (๑)
กรณีจำนวนผู้มี▇▇▇▇▇ของหน่วยบริการประจำตามฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ ณ วันทำสัญญา น้อยกว่า ๒,๐๐๐ (สองพัน) คน ให้วางหลักประกันในอัตรา ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน)
กรณีจำนวนผู้มี▇▇▇▇▇ของหน่วยบริการประจำตามฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ ณ วันทำสัญญา เกินกว่า ๒,๐๐๐ (สองพัน) คน ให้คิดในอัตรา ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) ต่อผู้มี▇▇▇▇▇ทุก ๆ ๒,๐๐๐ (สองพัน) คน ถ้าจำนวนผู้มี▇▇▇▇▇เกินกว่า ๒,๐๐๐ (สองพัน) คน ให้ปัดส่วนเกินนี้ขึ้น เต็มจำนวน ๒,๐๐๐ (สองพัน) คน
(๒) หน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇ตามข้อ ๓.๑ (๒) ให้วางหลักประกันในอัตรา ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) ถ้าจำนวนผู้มี▇▇▇▇▇ของหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇ตามฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ ณ วันทำสัญญา เกินกว่า ๑๐,๐๐๐ (หนึ่งหมื่น) คน ให้วางหลักประกัน▇▇▇▇▇อีกในอัตรา ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน)
(๓) หน่วยบริการที่รับการส่งต่อตามข้อ ๓.๑ (๓) ให้วางหลักประกัน ดังนี้
(ก) หน่วยบริการที่รับการส่งต่อทั่วไป ให้วางหลักประกันในอัตรา ๒๐๐,๐๐๐ บาท
(สองแสนบาทถ้วน)
(ข) หน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะ▇▇▇▇▇▇▇จัดบริการในระดับทุติยภูมิ และระดับ▇▇▇▇
ภูมิ ให้วางหลักประกันในอัตรา ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) ต่อด้าน▇▇▇▇▇▇รับการขึ้นทะเบียน
(ค) หน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะ▇▇▇▇▇▇▇จัดบริการในระดับ▇▇▇▇▇▇▇ ให้วาง หลักประกันในอัตรา ๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ต่อด้าน▇▇▇▇▇▇รับการขึ้นทะเบียน
กรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการมากกว่าหนึ่งประเภทและ ให้บริการกับผู้มี▇▇▇▇▇คนเดียวกัน ให้วางหลักประกันสัญญาเฉพาะหลักประกันสัญญาของประเภทหน่วยบริการที่ มี▇▇▇▇▇▇สูงสุด
๖.๒ หลักประกันสัญญาที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนำมามอบให้กับสำนักงานตามข้อ ๖.๑ จะต้องครอบคลุมความรับผิดของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตลอดอายุสัญญา
๖.๓ ในระหว่างสัญญามีผลใช้บังคับ ถ้าสำนักงานตรวจสอบพบการเปลี่ยนแปลงจำนวน ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ขึ้นเป็นเหตุทำให้ต้อง▇▇▇▇▇หลักประกันสัญญาตามหลักเกณฑ์ในข้อ ๖.๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ต้องนำหลักประกันเพิ่มเติมให้มีจำนวนครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ในข้อ ๖.๑ มามอบให้สำนักงานภายใน ๑๕ (สิบห้า) วัน นับแต่▇▇▇▇▇▇ได้รับแจ้งจากสำนักงาน
๖.๔ ในกรณีที่หลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนำมามอบให้ ตามข้อ ๖.๑ และข้อ ๖.๓ ลดลง หรือเสื่อมค่าลง หรือมีอายุไม่ครอบคลุมถึงความรับผิดของคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการตลอดอายุสัญญาไม่ว่าด้วยเหตุใด คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องนำหลักประกันฉบับใหม่ หรือ
๙
หลักประกันเพิ่มเติมให้มีจำนวนครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ในข้อ ๖.๑ มามอบให้สำนักงานภายใน ๑๕ (สิบห้า) วัน นับแต่▇▇▇▇▇▇ได้รับแจ้งจากสำนักงาน
๖.๕ หลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนำมามอบให้ตามข้อ ๖.๑ ข้อ ๖.๓ และข้อ ๖.๔ สำนักงานจะคืนให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการโดยไม่มีดอกเบี้ยเมื่อคู่สัญญาฝ่ายหน่วย บริการพ้นจากข้อผูกพันและความรับผิดทั้งปวง▇▇▇▇▇▇▇▇นี้แล้ว
ข้อ ๗ ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ
๗.๑ หน่วยบริการประจำมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ในลักษณะเหมาจ่ายรายหัว และ/หรือค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขอื่นจากกองทุน หรือจากสำนักงาน หรือจากหน่วยบริการอื่น
ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่หน่วยบริการประจำมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับตลอดอายุสัญญานี้ ซึ่งคำนวณ จากจำนวนผู้มี▇▇▇▇▇ตามข้อ ๓.๑ (๑) คูณอัตราค่าใช้จ่ายรายหัวต่อผู้มี▇▇▇▇▇หนึ่งคนตามที่คณะกรรมการหรือ สำนักงานกำหนด และจากผลงานบริการของหน่วยบริการประจำและเครือข่ายหน่วยบริการ โดยสำนักงาน จะจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต่อเมื่อสำนักงานได้ตรวจสอบความ ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายรายหัวที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้รับจริง ต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการหรือ สำนักงานกำหนด
๗.๒ หน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇มี▇▇▇▇▇▇▇▇รับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขจากหน่วยบริการประจำหรือ จากกองทุนหรือจากสำนักงาน ตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด
๗.๓ หน่วยบริการที่รับการส่งต่อมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข จากหน่วย บริการประจำ หรือจากกองทุน ตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด
๗.๔ สำหรับการให้บริการกรณีอุบัติเหตุ หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือกรณีมีเหตุอัน▇▇▇▇▇ หรือกรณีที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือกรณีอื่นใด ให้ได้รับค่าใช้จ่ายตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด
๗.๕ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ข้อ ๓.๔
แล้วแต่กรณี
๗.๖ เพื่อให้การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขมีความรวดเร็ว และหรือเพื่อไม่ให้คู่สัญญา
ฝ่ายหน่วยบริการขาดสภาพ▇▇▇▇▇ในการจัดบริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ สำนักงานอาจจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อ บริการสาธารณสุขล่วงหน้าเป็นงวด ๆ ให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ แต่หลังจากที่สำนักงานได้ตรวจสอบ ความถูกต้องแล้ว ถ้าค่าใช้จ่ายไม่ครบตาม▇▇▇▇▇▇▇▇ได้รับสำนักงานจะจ่ายให้ครบถ้วน แต่หากสำนักงานตรวจสอบ ว่าจ่ายค่าใช้จ่ายล่วงหน้า และหรือค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข แต่ละงวดหรือแต่ละครั้งเกินกว่า▇▇▇▇▇▇▇▇ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการพึงได้รับจริง สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักคืนจากค่าใช้จ่ายในงวดถัดไปจนครบจำนวน
ถ้าสำนักงานจ่ายค่าใช้จ่ายเกินกว่า▇▇▇▇▇▇▇▇คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการพึงได้รับจริงในงวดนั้นหรือ งวดใด คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องคืนค่าใช้จ่ายส่วนเกินนั้นให้แก่สำนักงาน ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ไม่คืน สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักจากหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ตามข้อ ๖.๑ ข้อ ๖.๓ และข้อ ๖.๔ ได้ด้วย
หลักเกณฑ์การคำนวณการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ กำหนด หรือคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่หรือสำนักงานกำหนด
๗.๗ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยินยอมให้สำนักงานทำหน้าที่หักเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการ สาธารณสุขให้กับหน่วยบริการอื่น (Clearing House) ในกรณีที่ผู้มี▇▇▇▇▇ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเข้ารับ บริการ ณ หน่วยบริการอื่น หรือสถานบริการอื่นตาม▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ไว้ในกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
๑๐
กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหนี้ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่ค้างชำระแก่ หน่วยบริการอื่น อยู่ก่อนที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับ สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักเงินที่พึงจ่ายให้ แก่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการนั้นเพื่อจ่ายให้กับหน่วยบริการอื่นได้
๗.๘ สำหรับในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ หรือสำนักงาน มี▇▇▇▇▇▇▇▇เงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่พึงจ่ายให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตามที่กำหนดได้ โดย▇▇▇▇▇▇▇ค่าใช้จ่ายไว้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต ๑๓ กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสำหรับใช้ในวัตถุประสงค์แต่ละกรณี ดังต่อไปนี้
(๑) เพื่อจ่ายให้หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข ดังนี้
ก. ผู้ป่วยกรณีอุบัติเหตุ กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน เครือข่ายเดียวกันในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเครือข่ายเดียวกันในที่นี้หมายถึงหน่วยบริการประจำที่ส่งต่อโรงพยาบาลตามโครงการพัฒนาระบบบริการ เพื่อลดความ▇▇▇▇▇ผู้ป่วยนอก
ข. กรณีส่งต่อผู้ป่วยนอก (OP refer) ค. จ่ายค่าบริการผู้ป่วยนอก กรณีพิการ
(๒) กรณีผู้ป่วยเรื้อรัง▇▇▇▇▇▇▇รับบริการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตามโครงการพัฒนา ระบบบริการเพื่อลดความ▇▇▇▇▇ผู้ป่วยนอกก่อนที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับ
(๓) หักไม่เกินร้อยละ ๑ (หนึ่ง) ของงบประมาณเงินเหมาจ่ายรายหัวที่จัดสรรให้แก่คู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการ สำหรับการกำกับเชิงพัฒนาและการแก้ไขปัญหาระบบส่งต่อตามโครงการพัฒนาระบบ เพื่อลดความ▇▇▇▇▇ผู้ป่วยนอก
ภายหลังจากลงนามในสัญญานี้แล้ว ต่อมาคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ หรือสำนักงาน ใช้▇▇▇▇▇▇▇▇เงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่พึงจ่ายให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตามที่กำหนดได้ โดย▇▇▇▇▇▇▇ค่าใช้จ่ายไว้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต ๑๓ กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสำหรับใช้ในวัตถุประสงค์แต่ละกรณี เพิ่มเติม นอกเหนือจาก (๑) ถึง (๓) ตามวรรคหนึ่ง และ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงยินยอมปฏิบัติตามกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ มติ คำสั่ง หลักเกณฑ์ คู่มือ หรือแนวทางปฏิบัติ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ หรือ คณะอนุกรรมการ หรือสำนักงานกำหนด
๗.๙ กรณีที่สำนักงานตรวจสอบพบว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีพฤติการณ์ในการกระทำการ ทุจริตหรือเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขอันเป็นเท็จในกิจกรรมหนึ่งกิจกรรมใดตามข้อ ๓.๑ ที่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการตกลงให้บริการสาธารณสุขไว้ สำนักงานมี▇▇▇▇▇ยุติการจ่ายเงินค่าบริการสาธารณสุขให้แก่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการในกิจกรรมนั้น และให้สำนักงานมี▇▇▇▇▇ระงับหรือยกเลิกกิจกรรมประเภทที่เกี่ยวข้องกับการ ทุจริตหรือการเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขอันเป็นเท็จนั้น ๆ หรือยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดตามที่สำนักงาน เห็น▇▇▇▇▇
ข้อ ๘ การรับเงินค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน
คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับเงินค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน หรือที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น เป็นค่าใช้จ่าย สนับสนุน และ▇▇▇▇▇▇▇▇การจัดบริการสาธารณสุข ซึ่งเป็นการเบิกจ่าย ในลักษณะงบลงทุน โดยขอบเขตบริการหรือการจ่ายให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเป็นไปตาม กฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ มติ คำสั่ง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข คู่มือหรือแนวปฏิบัติ ที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การ▇▇▇▇▇▇งานและ
๑๑
การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น ตามที่คณะกรรมการหรือ สำนักงานกำหนดในแต่ละปีงบประมาณ
ภายในระยะเวลา ๑ (หนึ่ง) ปี นับแต่▇▇▇▇▇▇ได้รับจัดสรรในแต่ละปีงบประมาณ หากคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการ▇▇▇▇▇ออกจากการเป็นหน่วยบริการ หรือถูกเพิกถอนการเป็นหน่วยบริการ หรือไม่กระทำผิด เงื่อนไขการรับเงินค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุนในปีงบประมาณนั้น ๆ คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการไม่ต้องคืนเงินในส่วนนี้ให้แก่สำนักงาน
ในกรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการผิดเงื่อนไขแห่งสัญญา หรือไม่ต่อสัญญาทำให้สัญญาสิ้นสุด หรือคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการถอนตัวจากการให้บริการสาธารณสุขในฐานะหน่วยบริการ หรือถูกเพิกถอน การขึ้นทะเบียนหรือถูกยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ หรือมีเหตุอื่นใดที่ทำให้ คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇เป็นหน่วยบริการ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องคืนเงิน▇▇▇▇▇▇รับจัดสรรค่าบริการทางการแพทย์ ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุนตามวรรคหนึ่ง ตามสัดส่วนของระยะเวลาที่อยู่ไม่ครบปีงบประมาณตามประกาศ คณะกรรมการ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ (สิบห้า) ต่อปี ให้แก่สำนักงานภายใน ๑๕ (สิบห้า) วัน นับถัดจาก▇▇▇▇▇▇มีเหตุให้คืนเงิน
กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่คืนเงินภายในกำหนดตามวรรคสาม คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการยินยอมให้สำนักงานคิดดอกเบี้ย▇▇▇▇▇▇▇▇▇ในอัตราร้อยละ ๑๕ (สิบห้า) ต่อปี นับแต่▇▇▇▇▇▇ผิดนัด และให้สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการพึงได้รับจากสำนักงาน ทุกกรณี และ/หรือไม่ว่ากรณีใด ๆ ได้ทั้งสิ้น เพื่อชำระหนี้ได้ด้วย
ข้อ ๙ กำหนดเวลาการให้บริการสาธารณสุข
ให้ยกเลิกสัญญาให้บริการสาธารณสุขตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระหว่างสำนักงานกับคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการที่มีอยู่ก่อน▇▇▇▇▇▇ โดยให้ใช้สัญญานี้แทน และให้สัญญานี้เริ่มกำหนดเวลาการให้บริการสาธารณสุข ▇▇▇▇▇ หน้าที่ และความรับผิดต่อเนื่องกัน ดังต่อไปนี้
๙.๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตกลงเริ่มให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ ตั้งแต่▇▇▇▇▇▇ เดือน พ.ศ. สิ้ น ▇▇ ▇ ▇▇ ▇ ที่ ๓ ๐ เดื อน กั น ยาย น พ .ศ .
๙.๒ โดย▇▇▇▇เมื่อถึงกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาตามข้อ ๙.๑ หากสำนักงานหรือคู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการมิได้บอกเลิกสัญญา ให้▇▇▇▇▇▇ระยะเวลาการให้บริการสาธารณสุข▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ขยายออกไปอีกทุก ๆ หนึ่งปีงบประมาณ โดยให้สัญญามีผลบังคับใช้ต่อไป เริ่มต้นนับตั้งแต่▇▇▇▇▇▇ ๑ ▇▇▇▇▇▇ ถึง▇▇▇▇▇▇ ๓๐ กันยายน ของแต่ละปีงบประมาณนั้นเป็นต้นไปทุก ๆ ปี เว้นแต่กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการถูกเพิกถอนหรือถูกยกเลิก การเป็นหน่วยบริการหรือถูกสำนักงานบอกเลิกสัญญา ก่อนครบกำหนดเวลาตามข้อ ๙.๑ ให้สัญญานี้สิ้นสุดลง ตามประกาศของสำนักงาน
๙.๓ ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่▇▇▇▇▇▇▇จะต่อสัญญาในปีงบประมาณใดต่อไปอีก ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการแจ้งความ▇▇▇▇▇▇▇เป็นหนังสือต่อสำนักงานก่อนสัญญาสิ้นสุดไม่น้อยกว่า ๑๘๐ (หนึ่งร้อยแปดสิบ) วัน การที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการแจ้งความ▇▇▇▇▇▇▇ดังกล่าวแล้วก็ยัง▇▇มีหน้าที่ ให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇ไปจนกว่าสิ้นสุดระยะเวลา▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ แจ้งความ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ต่อสัญญาน้อยกว่า ๑๘๐ (หนึ่งร้อยแปดสิบ) วัน ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ จากสำนักงาน หากสำนักงานไม่ตกลงให้ความยินยอม คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยัง▇▇ต้องรับผิดชอบ ต่อความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเงื่อนไข และสำนักงานขอ▇▇▇▇▇▇▇▇▇เรียกค่าเสียหายดังกล่าวโดยมี▇▇▇▇▇ หักจากหลักประกันสัญญาตามข้อ ๖ ได้ด้วย
๑๒
ในกรณีที่กำหนดเวลาในสัญญานี้ขยายออกไปอีกตามข้อ ๙.๒ และเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการได้ใช้หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศเป็นหลักประกันสัญญาในกรณีที่หนังสือ ค้ำประกันสัญญานั้นระบุวันคุ้มครองสัญญาปีต่อปี ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนำหนังสือค้ำประกัน ของธนาคารฉบับใหม่ในอัตราตามข้อ ๖.๑ มาเปลี่ยนแทนหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇เดิมทุกครั้งที่ สัญญามีผลให้ขยายกำหนดเวลาออกไปทุก ๆ ปีงบประมาณโดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อ ๖.๒
ในกรณีที่หนังสือค้ำประกันสัญญาของธนาคารระบุว่าคุ้มครองสัญญาโดยไม่มีกำหนด ระยะเวลานั้น หากวงเงินค้ำประกันสัญญาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คู่สัญญ าฝ่ายหน่วยบริการ ก็ไม่จำต้องนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาเปลี่ยนแต่อย่างใด แต่หากวงเงินประกันสัญญาเปลี่ยนแปลง ไป▇▇▇▇▇ขึ้นหรือลดลงจากเดิม คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องนำหลักประกันสัญญามา▇▇▇▇▇ให้ครบจำนวน ตามแต่ละกรณี โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อ ๖.๓ และข้อ ๖.๔
ในกรณีหลักประกันสัญญาเป็นเงินสด หรือเช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้สำนักงาน โดยเป็นเช็ค ลง▇▇▇▇▇▇ที่ทำสัญญาหรือก่อนหน้านั้น ไม่เกิน ๓ (สาม) วันทำการทางราชการ (แคชเชียร์เช็ค) หากวงเงิน ค้ำประกันสัญญาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการก็ไม่จำต้องนำเงินสดหรือแคชเชียร์เช็ค มาเปลี่ยนแต่อย่างใด แต่หากวงเงินประกันสัญญาเปลี่ยนแปลงไป▇▇▇▇▇ขึ้นจากเดิม คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ต้องนำหลักประกันสัญญา เป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คมา▇▇▇▇▇ให้ครบจำนวนตามแต่ละกรณี
ข้อ ๑๐ การให้สถานบริการอื่นรับช่วงการให้บริการสาธารณสุข
๑๐.๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องไม่เอาการให้บริการสาธารณสุขทั้งหมดหรือแต่บางส่วน แห่งสัญญานี้ไปให้สถานบริการอื่นรับช่วงการให้บริการอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่การให้บริการสาธารณสุขแต่บางส่วน ▇▇▇▇▇▇รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสำนักงานแล้ว แต่ทั้งนี้การให้สถานบริการอื่นรับช่วงการให้บริการดังกล่าว ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้มี▇▇▇▇▇และเพื่อให้ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุข▇▇▇▇▇ยิ่งขึ้นเท่านั้น
๑๐.๒ กรณีที่สำนักงานได้อนุญาตให้สถานบริการอื่นรับช่วงการให้บริการสาธารณสุข แต่บางส่วนดังกล่าวตามข้อ ๑๐.๑ ไม่เป็นเหตุให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการหลุดพ้นจากความรับผิด หรือพันธะ หน้าที่▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ และคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยัง▇▇ต้องรับผิดในความผิดและความประมาทเลินเล่อ ของสถานบริการอื่นที่รับช่วงการให้บริการสาธารณสุขหรือตัวแทนหรือลูกจ้างของสถานบริการที่รับช่วง การให้บริการสาธารณสุขนั้นทุกประการ
ข้อ ๑๑ ความรับผิดในความบกพร่อง
๑๑.๑ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมิได้ทำการรักษาพยาบาลให้ถูกต้องตามหลักวิชาการทาง การแพทย์ หรือเกิดความเสียหายใด ๆ อันเนื่องมาจากความบกพร่องของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ จากการใช้ สิ่งของหรือเวชภัณฑ์หรือครุภัณฑ์▇▇▇▇▇▇มาตรฐาน หรือแพทย์ พยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ของคู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อหรือเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยอันมิใช่ความผิดของ สำนักงาน คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในบรรดาความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดย ไม่มี▇▇▇▇▇เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่า▇▇▇▇▇ใด ๆ จากสำนักงานทั้งสิ้น
๑๑.๒ สำนักงานไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ตามข้อ ๑๑.๑ อันเกิดขึ้นกับคู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการ คนงาน ผู้ปฏิบัติงาน หรือพนักงาน หรือบุคลากร ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการที่ปฏิบัติหน้าที่ ▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ทุกกรณี
๑๓
ข้อ ๑๒ การบอกเลิกสัญญา
๑๒.๑ กรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ละทิ้งงาน หรือถูกสั่งปิด สถานพยาบาล หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตให้ ▇▇▇▇▇▇การสถานพยาบาล หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต จัดตั้งศูนย์บริการคนพิการทั่วไป หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งสถานบริการอื่น ๆ หรือถูกเพิกถอน ใบอนุญาตอื่น ๆ ที่มีผลต่อการให้บริการ หรือตกเป็นผู้ล้มละลาย หรือความปรากฏแก่สำนักงานว่าข้อมูลที่ คู่สัญญ าฝ่ายหน่วยบริการจัดส่งให้สำนักงานตามข้อ ๕ เป็นเท็จ หรือ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ปฏิบัติตามคำสั่ง ของคณะกรรมการหรือสำนักงานหรือ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม หรือมีเหตุทำให้สำนักงาน เชื่อได้ว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่▇▇▇▇▇▇ให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ได้หรือ ถ้าทำแล้วอาจจะทำไม่ได้ตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนดไว้ สำนักงานมี▇▇▇▇▇▇▇▇จะบอกเลิกสัญญานี้ ได้และมี▇▇▇▇▇ให้ยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ โดยสำนักงานจะไม่พิจารณารับขึ้นทะเบียน หน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นระยะเวลา ๑ (หนึ่ง) ปี นับจาก▇▇▇▇▇▇ประกาศยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ
ในกรณีที่สำนักงานได้ใช้▇▇▇▇▇บอกเลิกสัญญาตามวรรคหนึ่ง อันเนื่องมาจากข้อมูลที่คู่สัญญา ฝ่ายหน่วยบริการจงใจส่งเบิกค่าใช้จ่ายชดเชยเพื่อบริการสาธารณสุขให้แก่สำนักงานเป็นเท็จ สำนักงาน จะไม่พิจารณารับขึ้นทะเบียนหน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ เป็นระยะเวลา ๓ (สาม) ปี นับจาก▇▇▇▇▇▇ประกาศยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ
กรณีตามวรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการชี้แจงแสดงเอกสารหลักฐาน ประกอบให้สำนักงานเชื่อได้ว่ามิได้เป็น▇▇▇▇นั้น หรือสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์ของผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ จะเข้าถึงการรับบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง หรือเพื่อไม่ให้▇▇▇▇▇▇กระทบกับการรับบริการสาธารณสุขของ ผู้มี▇▇▇▇▇ หรือด้วยเหตุอื่นใด สำนักงานอาจพิจารณารับขึ้นทะเบียนสถานบริการนั้น ๆ ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วย บริการเป็นหน่วยบริการ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก่อนระยะเวลา ๑ (หนึ่ง) ปี หรือ ก่อนระยะเวลา ๓ (สาม) ปี แล้วแต่กรณีก็ได้
๑๒.๒ ในกรณีสำนักงานใช้▇▇▇▇▇บอกเลิกสัญญาตามข้อ ๑๒.๑ สำนักงานมี▇▇▇▇▇ ดังนี้
(๑) ริบหลักประกันหรือเรียกร้องเอาจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกัน ตามข้อ ๖.๑ ข้อ ๖.๓ และข้อ ๖.๔ เป็นจำนวนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามแต่สำนักงานจะเห็น▇▇▇▇▇
(๒) เรียกเอาเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข▇▇▇▇▇▇จ่ายไปแล้วจากคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการคืนได้ และมี▇▇▇▇▇ระงับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ มี▇▇▇▇▇พึงรับจากสำนักงาน ที่ค้างจ่ายอยู่ในงวดถัดไปได้
(๓) เรียกค่าปรับเป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ ๗๕ (เจ็ดสิบห้า) ของค่าใช้จ่าย เพื่อบริการสาธารณสุขที่ตรวจสอบพบว่ามีการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขอันเป็นเท็จ หรือปรับ เป็นจำนวนเงินน้อยกว่านั้นตามที่สำนักงานจะเห็น▇▇▇▇▇ ▇▇▇▇▇▇▇สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักเอาจากค่าใช้จ่ายเพื่อบริการ สาธารณสุขทุกประเภทที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมี▇▇▇▇▇พึงรับจากสำนักงาน และ/หรือสำนักงานจะบังคับ จากหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ ตามข้อ ๖ ก็ได้
(๔) เรียกร้องค่าเสียหายอื่นใดจากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ โดยมี▇▇▇▇▇หักเอาจาก ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมี▇▇▇▇▇พึงรับจากสำนักงาน และ/หรือ สำนักงานจะบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ ตามข้อ ๖ ก็ได้
๑๔
๑๒.๓ การที่สำนักงานไม่ใช้▇▇▇▇▇บอกเลิกสัญญาตามข้อ ๑๒.๑ ไม่เป็นเหตุให้คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการพ้นจากความรับผิด▇▇▇▇▇▇▇▇
๑๒.๔ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดเวลาตามข้อ ๙.๑ ▇▇▇▇▇▇ เว้นแต่เป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จะขยายเวลาตามข้อ ๙.๒ และคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการได้มีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญานี้ล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า ๑๘๐ (หนึ่งร้อยแปดสิบ) วัน ก่อนสัญญาสิ้นสุด หรือสำนักงานได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือแล้วในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการบอกเลิกสัญญาน้อยกว่า
๑๘๐ (หนึ่งร้อยแปดสิบ) วัน
ข้อ ๑๓ การชะลอการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข
๑๓.๑ กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่▇▇▇▇▇▇การถ่ายโอน ไม่ส่งข้อมูล สถิติ รายงาน ภายในเวลาที่กำหนดตามข้อ ๕.๙ สำนักงานมี▇▇▇▇▇ชะลอการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในเดือนที่ตรวจ พบจนถึง▇▇▇▇▇▇คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้▇▇▇▇▇▇การตามเงื่อนไขของสัญญานี้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
๑๓.๒ กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการอยู่ระหว่างถูกสำนักงานตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการ กระทำผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด หรือผิดกฎหมาย หรือขัดกับกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ มติ คำสั่ง คู่มือ เงื่อนไข หรือแนวทางปฏิบัติที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด สำนักงานมี▇▇▇▇▇ชะลอค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่ พึงรับทุกประเภทจากสำนักงาน
๑๓.๓ กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการมีหนี้ค้างชำระจากการถูกเรียกคืนเงินค่าใช้จ่าย เพื่อบริการสาธารณสุข สำนักงานมี▇▇▇▇▇ชะลอการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข จนกว่าคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการจะมีรายได้พึงรับมากกว่า▇▇▇▇▇▇หนี้ค้างชำระ หรือจนกว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะชำระหนี้ ครบถ้วน
ข้อ ๑๔ การหักค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข
สำนักงาน▇▇▇▇▇▇▇▇▇หรือมี▇▇▇▇▇หักค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่พึงจ่ายให้แก่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการ กรณีคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่ปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ หรือคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇การ ดังต่อไปนี้
๑๔.๑ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการย้ายสถานที่ตั้ง หรือเปลี่ยนหน่วยบริการที่รับการส่งต่อ ในแต่ละครั้ง สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักค่าใช้จ่ายหรือให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇มาชำระ เพื่อเป็นค่า▇▇▇▇▇▇การใด ๆ ที่สำนักงานจำเป็นต้องจ่ายในอัตรา ดังนี้
(๑) คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการย้ายสถานที่ตั้ง หักค่าใช้จ่ายในอัตรา ๔ บาท (สี่บาทถ้วน) ต่อผู้มี▇▇▇▇▇ ๑ (หนึ่ง) คน โดยอ้างอิงจากฐานผู้มี▇▇▇▇▇ ▇ ▇▇▇▇▇▇คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการแจ้งสำนักงาน
(๒) หน่วยบริการประจำของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเปลี่ยนหน่วยบริการที่รับการส่งต่อ หักค่าใช้จ่ายในอัตรา ๗ บาท (เจ็ดบาทถ้วน) ต่อผู้มี▇▇▇▇▇ ๑ (หนึ่ง) คน โดยอ้างอิงจากฐานผู้มี▇▇▇▇▇ ▇ ▇▇▇▇▇▇ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการแจ้งสำนักงาน เว้นแต่มิใช่เป็นเหตุจากหน่วยบริการประจำ ให้อยู่ในดุลพินิจของ สำนักงาน
๑๔.๒ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขจากสำนักงานเกิน จริงหรืออันเป็นเท็จเป็นการฝ่าฝืนกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ ที่คณะกรรมการหรือสำนักงานกำหนด หากสำนักงานตรวจสอบข้อมูลบริการสาธารณสุขของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการโดยสุ่มจากข้อมูลบริการ สาธารณสุขหรือเวชระเบียนทั้งหมด แล้วพบว่าการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขไม่ถูกต้อง
๑๕
ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนดเป็นเหตุให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้รับเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข เกินกว่า▇▇▇▇▇▇▇▇▇รับโดยส่วนที่เกินดังกล่าวมี▇▇▇▇▇▇ไม่เกินกว่าร้อยละ ๑๕ (สิบห้า) ของวงเงินที่เรียกเก็บตามข้อมูล บริการสาธารณสุขหรือเวชระเบียนที่สุ่มตรวจครั้งนั้น สำนักงานจะหักค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บเกินจริงหรือ อันเป็นเท็จดังกล่าวคืนได้ทันทีหรือหักเอาจากค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการพึงได้รับจากสำนักงานในงวดถัดไป พร้อมมีหนังสือ▇▇▇▇▇▇▇▇คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ
๑๔.๓ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่เปิดทำการและให้บริการตามวันเวลาที่แจ้งไว้▇▇▇▇▇▇▇▇
ข้อ ๓.๒
๑๔.๔ สำนักงานเข้าตรวจสอบหน่วยบริการของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇▇ในข้อ ๔ แล้ว
ผลการตรวจสอบไม่พบบุคลากรผู้ให้บริการประจำหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇▇ข้อ ๓.๓
กรณีตามข้อ ๑๔.๒ ถึงข้อ ๑๔.๔ สำนักงานมี▇▇▇▇▇หักค่าใช้จ่ายที่พึงจ่ายให้คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการในอัตราร้อยละ ๕๐ (ห้าสิบ) ของค่าใช้จ่ายที่พึงจ่ายให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการในเดือนที่พบเหตุนั้น ๆ
๑๔.๕ กรณีสำนักงานตรวจสอบพบว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ▇▇▇▇▇ให้ผู้มี▇▇▇▇▇ลงทะเบียน เลือกหน่วยบริการ โดยใช้กลฉ้อฉล หรือลงทะเบียนโดย▇▇▇▇▇▇รับความยินยอมจากผู้มี▇▇▇▇▇ ซึ่งขัดกับกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ มติ คำสั่ง คู่มือ เงื่อนไขหรือแนวทางปฏิบัติที่คณะกรรมการ หรือสำนักงานกำหนด คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องคืนเงินเหมาจ่ายรายหัว ในอัตรา ๕๐ (ห้าสิบ) เท่าของจำนวนเงินที่ไม่มี▇▇▇▇▇▇▇▇รับ โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยสำนักงานจะหักเงินดังกล่าวจากค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่จะพึงจ่าย ให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ และคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหาย อื่นที่เกิดขึ้น
๑๔.๖ กรณีบุคคลหรือองค์กร▇▇▇▇▇▇รับแต่งตั้งหรือมอบหมายตามข้อ ๔.๑ ตรวจพบหรือมีเหตุ ให้เชื่อได้ว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจัดบริการและให้บริการสาธารณสุข▇▇▇▇▇▇มาตรฐานตามที่กำหนด หรือ มีข้อร้องเรียนว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่จัดบริการ และ/หรือไม่ให้บริการสาธารณสุข หรือคู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการด้านหนึ่งด้านใด▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ สำนักงานมี▇▇▇▇▇ ให้หน่วยบริการอื่นหรือ▇▇▇▇สถานบริการอื่น จัดบริการและให้บริการสาธารณสุขด้านนั้นให้แก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ โดยหักค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่จะพึงจ่ายให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการนั้น เพื่อจ่ายให้แก่หน่วยบริการอื่นหรือสถานบริการอื่นที่จัดบริการและให้บริการสาธารณสุขด้านนั้นแทนได้ และให้▇▇▇▇▇▇เงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่สำนักงานได้จ่ายแก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ในการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ โดยคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่มี▇▇▇▇▇เรียกร้องใด ๆ จากสำนักงาน
ข้อ ๑๕ ค่าปรับ
ในกรณีที่สำนักงานยังไม่ใช้▇▇▇▇▇บอกเลิกสัญญาตามข้อ ๑๒.๑ สำนักงานมี▇▇▇▇▇เรียกร้องเอาค่าปรับ
เป็นเงิน ดังนี้
๑๕.๑ เว้นแต่สัญญานี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการละทิ้งงาน หรือ
▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการหรือสำนักงานหรือ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ผิดสัญญาหรือไม่▇▇▇▇▇▇ทำการ▇▇▇▇▇▇▇▇ข้อหนึ่งข้อใด สำนักงานมี▇▇▇▇▇เรียกร้องเอาค่าปรับเป็นเงิน เดือนละ เท่ากับร้อยละ ๗๕ (เจ็ดสิบห้า) ของค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่สำนักงานจะต้องจ่ายให้ในแต่ละเดือน ตามข้อ ๗ หรือปรับเป็นจำนวนเงินน้อยกว่านั้นตามที่สำนักงานจะเห็น▇▇▇▇▇จนกว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วย
๑๖
บริการจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง▇▇▇▇▇▇▇▇ โดยสำนักงานขอ▇▇▇▇▇▇▇▇▇ในการเรียกค่าปรับเพื่อชำระหนี้▇▇▇▇▇▇▇▇ นี้ได้ด้วย
๑๕.๒ กรณีที่สำนักงานตรวจสอบข้อมูลบริการสาธารณสุขของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ โดยสุ่มจากข้อมูลบริการสาธารณสุขหรือเวชระเบียนทั้งหมด แล้วพบว่าการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการ สาธารณสุขไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนดเป็นเหตุให้คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการได้รับเงินค่าใช้จ่าย เพื่อบริการสาธารณสุขเกินกว่า▇▇▇▇▇▇▇▇▇รับโดยส่วนที่เกินดังกล่าวมี▇▇▇▇▇▇เกินกว่าร้อยละ ๑๕ (สิบห้า) ของวงเงินที่ เรียกเก็บตามข้อมูลบริการสาธารณสุขหรือเวชระเบียนที่สุ่มตรวจครั้งนั้น ให้สำนักงานนำร้อยละของวงเงินเรียก เก็บที่ตรวจพบว่าไม่ถูกต้องดังกล่าว ไปคำนวณย้อนกลับจาก▇▇▇▇▇▇ในภาพรวมทั้งหมดที่คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการได้รับ ตามตัวอย่างแสดงวิธีการคำนวณค่าปรับตามเอกสารแนบท้ายสัญญาผนวก ๔ และ เรียกค่าปรับจากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการตามจำนวน▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇จากการคำนวณย้อนกลับนั้น หรือ หักเอาจากค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการพึงได้รับจากสำนักงาน ทั้งนี้ หากสำนักงานเห็นว่าการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข▇▇▇▇▇▇ถูกต้องดังกล่าวส่อไปในทางทุจริต หรือคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ▇▇▇▇▇▇▇เบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขอันเป็นเท็จ สำนักงานอาจเรียก ตรวจสอบข้อมูลการให้บริการสาธารณสุขหรือเวชระเบียนทั้งหมดเพื่อตรวจหา▇▇▇▇▇▇ความ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇แท้จริง ทั้งหมดได้ และสำนักงานมี▇▇▇▇▇เรียกคืนเงินตาม▇▇▇▇▇▇ทั้งหมดที่ตรวจพบ
ทั้งนี้หากการตรวจสอบดังกล่าวพบว่าเกิดจากความจงใจของคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ เมื่อสำนักงานได้▇▇▇▇▇▇คดีอาญา คดีแพ่ง คดี▇▇▇▇▇▇และศาลมีคำพิพากษาเป็นที่สุด สำนักงานมี▇▇▇▇▇เรียกค่าปรับ อีกไม่เกิน ๑๐ (สิบ) เท่า ของจำนวนเงินที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเรียกเก็บเกินจริงในการบริการครั้งนั้นอีกด้วย ข้อ ๑๕.๓ หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการเอากิจกรรมการให้บริการสาธารณสุข ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแห่งสัญญานี้ไปให้สถานบริการอื่นรับช่วงการให้บริการอีกทอดหนึ่งโดยฝ่าฝืน ความในข้อ ๑๐ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้▇▇▇▇▇▇▇เป็นจำนวนเงินทั้งหมด ของวงเงินของงานให้บริการสาธารณสุขที่ให้สถานบริการอื่นรับช่วงการให้บริการ ทั้งนี้ไม่ตัด▇▇▇▇▇ สำนักงานในการบอกเลิกสัญญาหรือชะลอการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขตามข้อ ๗
ไว้ก่อน จนกว่าคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง▇▇▇▇▇▇▇▇
ข้อ ๑๕.๔ หากคู่สัญ ญ าฝ่าย หน่วยบริการไม่รับ ล งทะเบียน หรือไม่รับ คำขอ ลงทะเบียนหรือคำขอเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการประจำของผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇ยื่นคำขอตามเงื่อนไข คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการต้องชำระค่าปรับในอัตรา ๑๐,๐๐๐ (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) บาทต่อรายที่ตรวจสอบพบในครั้ง นั้น
ข้อ ๑๖ การบังคับค่าปรับ และค่าเสียหาย
ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่ปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ข้อใดข้อหนึ่งด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม จนเป็นเหตุให้เกิดค่าปรับหรือค่าเสียหายแก่สำนักงาน คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องชดใช้ค่าปรับหรือ ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่สำนักงานโดยสิ้นเชิงภายในกำหนด .....................( ) วัน นับถัดจาก▇▇▇▇▇▇
ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากสำนักงาน หากคู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการไม่ชดใช้ให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลา ดังกล่าว ให้สำนักงานมี▇▇▇▇▇▇▇▇จะหักเอาจากจำนวนเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภทที่พึงจ่ายให้แก่ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ หรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ตามข้อ ๖ ได้ทันที
๑๗
หากบังคับค่าปรับ หรือค่าเสียหาย จากจำนวนเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขทุกประเภท ที่พึงจ่ายให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ หรือจากหลักประกันการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇ตามข้อ ๖ แล้วยัง▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการยินยอมชำระส่วนที่เหลือที่ยังขาดอยู่จนครบถ้วนตามจำนวนค่าปรับ หรือค่าเสียหาย นั้นภายในกำหนด ........................( ) วันนับถัดจาก▇▇▇▇▇▇ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากสำนักงาน
หากมีเงินค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในส่วนที่จะพึงจ่ายให้แก่คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ▇▇▇▇▇▇▇▇ที่หักไว้จ่ายเป็นค่าปรับ ค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายแล้ว▇▇▇▇▇▇▇▇อยู่อีกเท่าใด สำนักงานจะคืนให้แก่ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการทั้งหมด
ข้อ ๑๗ ขอบเขตแห่ง▇▇▇▇▇ของผู้มี▇▇▇▇▇
ในกรณีที่ผู้มี▇▇▇▇▇ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย และมี▇▇▇▇▇▇▇▇รับบริการสาธารณสุขจากทางอื่น นอกเหนือจากสัญญานี้ โดยมีหน่วยงานหรือบุคคลใด เป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรับบริการ สาธารณสุขแทนผู้มี▇▇▇▇▇ ▇▇▇ว่า▇▇▇▇▇▇▇▇ได้รับนั้นจะเกิดจากสัญญา ละเมิด หรือเพราะเหตุอื่นก็ตาม ผู้มี▇▇▇▇▇ จะเลือกใช้▇▇▇▇▇ในการรับบริการสาธารณสุขในทางใดก็ได้ ถ้าผู้มี▇▇▇▇▇ขอใช้▇▇▇▇▇จากทางอื่น คู่สัญญาฝ่าย หน่วยบริการจะต้องให้ผู้มี▇▇▇▇▇แสดงความ▇▇▇▇▇▇▇ไว้เป็นหนังสือ และหากผู้มี▇▇▇▇▇เลือกใช้▇▇▇▇▇ในฐานะเป็น ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการต้องให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ โดยจะกำหนด เงื่อนไขใด ๆ แก่ผู้มี▇▇▇▇▇▇▇▇▇
ข้อ ๑๘ การตีความ
คู่สัญญามีความเข้าใจตรงกันว่าข้อตกลงในสัญญานี้กำหนดขึ้นเพื่อให้คู่สัญญาปฏิบัติให้เป็นไป ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้องครบถ้วน ข้อความใด ในสัญญาซึ่งขัดหรือแย้ง หรือไม่สอดคล้องกับกฎ ▇▇▇▇▇▇▇ ข้อบังคับ ประกาศ มติ คำสั่ง หรือหลักเกณฑ์ คู่มือหรือแนวปฏิบัติ ของคณะกรรมการหรือสำนักงานที่กำหนดขึ้น และให้▇▇▇▇▇▇ข้อความในสัญญานี้ไม่มีผลบังคับ ให้บังคับตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข้อ ๑๙ การวินิจฉัยชี้ขาด
กรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติ▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ ให้สำนักงานเป็นผู้▇▇▇▇▇▇▇วินิจฉัยชี้ขาด คำวินิจฉัย ของสำนักงานให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ ๒๐ การ▇▇▇▇▇▇▇▇
การ▇▇▇▇▇▇▇▇ใดที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะต้องแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบ▇▇▇▇▇▇▇▇นี้ จะต้องทำเป็นหนังสือส่งไปยังที่อยู่ของ▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇▇ระบุไว้ในสัญญานี้ หากคู่สัญญาเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ต้องแจ้งให้ คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบภายใน ๗ ( เจ็ด ) วัน นับแต่วันเปลี่ยนแปลงที่อยู่ หากไม่แจ้งและคู่สัญญา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ส่งหนังสือ▇▇▇▇▇▇▇▇แก่▇▇▇▇▇▇▇▇ ▇ ที่อยู่ตามที่ระบุไว้ในสัญญานี้ ให้▇▇▇▇▇▇▇▇▇ส่งโดยชอบแล้ว
สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยละเอียด ตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และแต่ละฝ่ายต่างยึดถือไว้ ฝ่ายละหนึ่งฉบับ
ลงชื่อ สำนักงาน ( )
ลงชื่อ คู่สัญญาฝ่ายหน่วยบริการ ( )
ลงชื่อ พยาน ( )
ลงชื่อ พยาน ( )
