การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย ข้อกำหนดตัวอย่าง

การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื่อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกน ภยั เกิดข้ึน ผูเ้ อาประกนภย หรือผูขบ ขี่จะตอ งแจง้ ให้บริษท ทราบโดยไม่ ชักช้า และดา˚ เนินการอน จา˚ เป็ นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย ท้งั น้ีผูเ้ อาประกน ภยั อาจแจง้ ให้บริษท ทราบผ่านแอพพลิเคชันส˚าหรับการแจ้ง อุบต ิเหตุรถยนตข องส˚านก งานคณะกรรมการกา˚ กบ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกนภย หรือแอพพลิเคชน ที่บริษท เป็นผพู ฒ นาข้ึน ซ่ึงได เชื่อมโยงขอมูลเขากบแอพพลิเคชนของส˚านกงานคณะกรรมการกา˚ กบและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกนภยั และมรี ายละเอียดตามที่ส˚านกงาน คณะกรรมการกากบและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกนภยกาหนด มีสิทธิเขา้ ดา˚ เนินการในนามของผูเ้ อาประกน ภยั เกี่ยวกบ อุบต ิเหตุที่เกิดข้ึนได้ หากความเสียหายที่เกิดข้ึนน้น อยู่ภายใตค วาม คุมครองในกรมธรรมประกนภย ความคุม ครองของบริษท จะเกิดข้ึนเมื่อผเู้ อาประกน ภยั หรือผขู บ ขี่ดา˚ เนินการโดยสุจริต
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื่อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยเกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่จะต้องแจ้ง ให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า และดําเนินการอันจําเป็นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิเข้าดําเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ หากความเสียหายที่เกิดขึ้น นั้นอยู่ภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัย ความคุ้มครองของบริษัทจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ดําเนินการโดยสุจริต
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื่อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยเกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับข่ีจะต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า และดําเนินการอันจําเป็นเพ่ือรักษาสิทธิ ตามกฎหมาย ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยอาจแจ้งให้บริษัททราบผ่านแอพพลิเคชันสําหรับการแจ้ง อุบัติเหตุรถยนต์ของสํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือแอพพลิเคชันที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้น ซึ่งได้เชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับแอพพลิเคชันของ สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัยและมีรายละเอียดตามที่ สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัยกําหนด บริษัทมีสิทธิเข้าดําเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุท่ีเกิดข้ึนได้ หากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัย ความคุ้มครองของบริษัทจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ดําเนินการโดยสุจริต ข้อ 5. ความรับผิดของบริษัทเมื่อมีการปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนต่อบริษัท และหากบริษัทปฏิเสธความรับผิด โดยมิชอบ จนเป็นเหตุให้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้เสียหายนําคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล หรือเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ หากศาลพิพากษา หรืออนุญาโตตุลาการชี้ขาด
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื่อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยเกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ จะต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า และดําเนินการอันจําเป็นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้ผู้เอา ประกันภัยอาจแจ้งให้บริษัททราบผ่านแอพพลิเคชันสําหรับการแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ของสํานักงาน คณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือแอพพลิเคชันที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้น ซึ่งได้เชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับแอพพลิเคชันของสํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบ ธุรกิจประกันภัยและมีรายละเอียดตามที่สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัยกําหนด บริษัทมีสิทธิเข้าดําเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ หากความ เสียหายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัย
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื่อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกนภยเกิดขึน ผู้เอาประกนภย หรือผู้ขบขี่จะต้อง แจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชกช้า และดําเนินการอนจําเป็ นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิเข้าดําเนินการในนามของผ้เอาประกนภยเก่ียวกบอุบต ิเหตท ่ีเกิดขึนได้ หากความเสียหายที่ เกิดขน้ นนอย่ภายใตความคม้้ ครองในกรมธรรม์ประกนภย ความค้มครองของบริษัทจะเกิดขน้ เมื่อผ้เอาประกนภยหรือผ้ขบขดาเนิํี่ นการโดยสจรติ
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื่อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยเกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่จะต้องแจ้งให้บริษัท ทราบโดยไม่ชักช้าและด˚าเนินการอันจ˚าเป็นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิเข้าด˚าเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ หากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ ภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยความคุ้มครองของบริษัทจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ด˚าเนินการโดย สุจริต เมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนต่อบริษัท และหากบริษัทปฏิเสธความรับผิดไม่ว่าด้วยเหตุใด ก็ตาม จนเป็นเหตุให้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้เสียหายน˚าคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลหรือเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ หากศาลพิพากษาหรืออนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้บริษัทแพ้คดี บริษัทจะต้องรับผิดต่อผู้เอาประกันภัย หรือผู้เสียหายนั้น โดย ชดใช้ค่าเสียหายตามค˚าพิพากษา หรือค˚าชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับตั้งแต่ วันที่ผิดนัด
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. ความรับผิดของบริษัทเมื่อมีการปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. คํานิยามศัพท์
การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย. เมื'อมีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกน คณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือแอพพลิเคชันที'บริษัทเป็นผู้ การประกอบธุรกิจประกนภยและมีรายละเอียดตามท'ีสํานักงานคณะกรรมการกํากบั และส่งเสรมิ การ บริษัทมีสิทธิเข้าดําเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี'ยวกับอุบัติเหตุท'ีเกิดขึนได้ หาก

Related to การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย

  • การรับประกันความชํารุดบกพร่อง ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้ทำสัญญาจ้าง ตามแบบ ดังระบุในข้อ ๑.๓ หรือข้อตกลงจ้างเป็นหนังสือแล้วแต่กรณี จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายใน ระยะเวลา ไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับถัดจากวันที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับมอบงาน โดยต้องรีบจัดการ ซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง

  • หมายเหตุ รูปแบบการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนา ตามแบบ PA 1 ให้เป็นไปตามบริบท และสภาพการจัดการเรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการสถานศึกษา และข้าราชการครูผู้จัดทำข้อตกลง

  • ความรับผิดของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือภยันตรายใด ๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงาน ของผู้รับจ้าง และจะต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการกระทําของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง และจากการ ปฏิบัติงานของผู้รับจ้างช่วงด้วย (ถ้ามี) ความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่งานที่ผู้รับจ้างได้ทําขึ้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ตาม ผู้รับ จ้างจะต้องรับผิดชอบโดยซ่อมแซมให้คืนดีหรือเปลี่ยนให้ใหม่โดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง เว้นแต่ความเสียหายนั้น เกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ ความรับผิดของผู้รับจ้างดังกล่าวในข้อนี้จะสิ้นสุดลง เมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงาน ครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังจากนั้นผู้รับจ้างคงต้องรับผิดเพียงในกรณีชํารุดบกพร่อง หรือความเสียหายดังกล่าวในข้อ 8 เท่านั้น ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงานของผู้ รับจ้าง หรือลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง รวมถึงผู้รับจ้างช่วง (ถ้ามี) ตามสัญญานี้ หากผู้ว่าจ้างถูกเรียกร้องหรือ ฟ้องร้องหรือต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องดําเนินการใด ๆ เพื่อให้มีการว่าต่างแก้ต่าง ให้แก่ผู้ว่าจ้างโดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง รวมทั้งผู้รับจ้างจะต้องชดใช้ค่าเสียหายนั้น ๆ ตลอดจนค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการถูกเรียกร้องหรือถูกฟ้องร้องให้แก่ผู้ว่าจ้างทันที

  • ความรับผิดชอบในความชํารุดบกพร่องของงานจ้าง เมื่องานแล้วเสร็จบริบูรณ์ และผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างหรือจากผู้รับจ้างรายใหม่ ใน กรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาตามข้อ 7 หากมีเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหายเกิดขึ้นจากการจ้างนี้ ภายในกําหนด 2 (สอง) ปี - เดือน นับถัดจากวันที่ได้รับมอบงานดังกล่าว ซึ่งความชํารุดบกพร่องหรือเสียหายนั้นเกิดจากความ บกพร่องของผู้รับจ้างอันเกิดจากการใช้วัสดุที่ไม่ถูกต้องหรือทําไว้ไม่เรียบร้อย หรือทําไม่ถูกต้องตามมาตรฐานแห่ง หลักวิชา ผู้รับจ้างจะต้องรีบทําการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ชักช้า โดยผู้ว่าจ้างไม่ต้องออกเงินใดๆ ในการนี้ทั้งสิ้น หากผู้รับจ้างไม่กระทําการดังกล่าวภายในกําหนด 7 (เจ็ด) วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง หรือไม่ทําการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกําหนด ให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะทําการนั้นเอง หรือจ้าง ผู้อื่นให้ทํางานนั้น โดยผู้รับจ้างต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น ในกรณีเร่งด่วนจําเป็นต้องรีบแก้ไขเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหายโดยเร็ว และไม่อาจรอให้ผู้รับ จ้างแก้ไขในระยะเวลาที่กําหนดไว้ตามวรรคหนึ่งได้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเข้ าจัดการแก้ไขเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหาย นั้นเอง หรือจ้างผู้อื่นให้ซ่อมแซมความชํารุดบกพร่องหรือเสียหาย โดยผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบชําระค่าใช้จ่ายทั้งหมด การที่ผู้ว่าจ้างทําการนั้นเอง หรือจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้นแทนผู้รับจ้าง ไม่ทําให้ผู้รับจ้างหลุดพ้นจาก ความรับผิดตามสัญญา หากผู้รับจ้างไม่ชดใช้ค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายตามที่ผู้ว่าจ้างเรียกร้องผู้ว่าจ้างมีสิทธิบังคับจาก หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาได้

  • การทําสัญญาจ้างก่อสร้าง ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะต้องทำสัญญาจ้างตามแบบสัญญา ดังระบุ ในข้อ ๑.๓ หรือทำข้อตกลงเป็นหนังสือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายใน ๗ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับ แจ้ง และจะต้องวางหลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเงินเท่ากับร้อยละ ๕ ของราคาค่าจ้างที่ประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยึดถือไว้ในขณะทำสัญญาโดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ๖.๒ เงินสด เช็คหรือดราฟท์ที่ธนาคารเซ็นสั่งจ่าย ซึ่งเป็นเช็คหรือดราฟท์ลงวันที่ที่ใช้เช็คหรือ ดราฟท์นั้น ชำระต่อเจ้าหน้าที่ในวันทำสัญญา หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน ๓ วันทำการ ๖.๓ หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศ ตามตัวอย่างที่คณะกรรมการ นโยบายกำหนด ดังระบุในข้อ ๑.๔ (๒) หรือจะเป็นหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลาง กำหนด ๖.๔ หนังสือค้ำประกันของบริษัทเงินทุน หรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต ให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจค้ำประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศ ไทย ตามรายชื่อบริษัทเงินทุนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งเวียนให้ทราบ โดยอนุโลมให้ใช้ตามตัวอย่าง หนังสือค้ำประกันของธนาคารที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด ดังระบุในข้อ ๑.๔ (๒) ๖.๕ พันธบัตรรัฐบาลไทย หลักประกันนี้จะคืนให้ โดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน ๑๕ วันนับถัดจากวันที่ผู้ชนะการ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (ผู้รับจ้าง) พ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาจ้างแล้ว