ขอบเขตของการดําเนินงาน ข้อกำหนดตัวอย่าง

ขอบเขตของการดําเนินงาน. ผู้ยื่นข้อเสนอต้องจัดให้มีล่ามแปลภาษาและปฏิบัติงานด้านบริการงานแปลเอกสาร โดยให้มีผู้เชี่ยวชาญจีน ตรวจสอบความถูกต้องของการแปล ตลอดระยะเวลาของโครงการ พร้อมล่ามอาวุโส โดยมีขอบเขตการดําเนินงาน ดังนี้
ขอบเขตของการดําเนินงาน. แผนการใชพ้ สดท่ีผลิตภายในประเทศ
ขอบเขตของการดําเนินงาน. 6.1 จัดหาบุคลากรมาปฏิบัติงานที่ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน และศูนย์บริการ เบ็ดเสร็จ อําเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีรายละเอียดดังนี้ 6.1.1 เจ้าหน้าที่ประสานและให้บริการด้านการลงทุน (INVESTOR SERVICES COORDINATOR: ISC) จํานวน 2 คน ▪ ให้คําแนะนําในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ กฎหมาย ระเบียบ มาตรการ การ ขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจใน ประเทศไทย และประสานงาน จัดเตรียมเอกสาร สถานที่ และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการรับนักลงทุน ตลอดจนติดตามความคืบหน้าของนัก ลงทุนที่มาติดต่อ และจัดทํารายงานต่าง ๆ รวมถึงการดําเนินการ ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าจ้าง ▪ ให้คําแนะนําการยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน รวมถึงการรับเรื่องส่งต่อทั้งในรูปแบบคําร้อง online และคําร้อง กระดาษ และรับคําขอด้านการลงทุน พร้อมประสานและส่งต่อไปยัง หน่วยงานที่เป็นเจ้าของบริการ พร้อมติดตามสถานะการอนุมัติ ณ จุด เดียว ▪ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบข้อซักถามและให้ข้อมูลเบื้องต้น แก่นักลงทุนผ่านทาง E-mail ในประเด็นที่สอบถามมา ▪ จัดประชุมหารือระหว่างนักลงทุนกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง เพื่อให้คําปรึกษาตามที่ได้นัดหมายไว้ ▪ จัดทํารายงานผู้มาติดต่อขอคําปรึกษาหรือสอบถาม โดยอย่างน้อยให้มี ข้อมูลชื่อบุคคลที่ติดต่อชื่อ สัญชาติ บริษัท สถานที่ติดต่อ กิจการที่ สนใจลงทุน และประเด็นข้อหารือ ▪ ปฏิบัติงานแบบประจํา 5 วันต่อสัปดาห์ ระหว่างวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลาทํางาน 8.30 – 16.30 น. (เวลาพัก 12.00 – 13.00 น.) ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องบันทึกเวลาเพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถตรวจสอบได้ เข้า ทํางานก่อนเวลาเริ่มงานและไม่กลับก่อนเวลาที่กําหนด มีวันหยุด ประจําสัปดาห์ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตาม วันหยุดของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิกําหนดวัน เวลา หรือสถานที่ ปฏิบัติงานอื่นเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่กําหนดไว้ได้ตามความจําเป็น หรือตามภาระกิจของหน่วยงานที่ผู้รับจ้างปฏิบัติงาน 6.1.2 เจ้าหน้าที่ดูแลนักลงทุน (Account Executive: AE) ส่วนงาน OSOS จํานวน 2 คน ▪ ให้คําแนะนําในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ กฎหมาย ระเบียบ มาตรการ การ ขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจใน ประเทศไทย และประสานงาน จัดเตรียมเอกสาร สถานที่ และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการรับนักลงทุน ตลอดจนติดตามความคืบหน้าของนัก ลงทุนที่มาติดต่อ และจัดทํารายงานต่าง ๆ รวมถึงการดําเนินการ ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าจ้าง ▪ ให้คําแนะนําการยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน รวมถึงการรับเรื่องส่งต่อทั้งในรูปแบบคําร้อง online และคําร้อง กระดาษ และรับคําขอด้านการลงทุน พร้อมประสานและส่งต่อไปยัง หน่วยงานที่เป็นเจ้าของบริการ พร้อมติดตามสถานะการอนุมัติ ณ จุด เดียว ▪ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบข้อซักถามและให้ข้อมูลเบื้องต้น แก่นักลงทุนผ่านทาง E-mail ในประเด็นที่สอบถามมา ▪ จัดประชุมหารือระหว่างนักลงทุนกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง เพื่อให้คําปรึกษาตามที่ได้นัดหมายไว้ ▪ จัดทํารายงานผู้มาติดต่อขอคําปรึกษาหรือสอบถาม โดยอย่างน้อยให้มี ข้อมูลชื่อบุคคลที่ติดต่อชื่อ สัญชาติ บริษัท สถานที่ติดต่อ กิจการที่ สนใจลงทุน และประเด็นข้อหารือ ▪ ปฏิบัติงานแบบประจํา 5 วันต่อสัปดาห์ ระหว่างวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลาทํางาน 8.30 – 16.30 น. (เวลาพัก 12.00 – 13.00 น.) ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติงานจะต้องบันทึกเวลาเพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถตรวจสอบได้ เข้า ทํางานก่อนเวลาเริ่มงานและไม่กลับก่อนเวลาที่กําหนด มีวันหยุด ประจําสัปดาห์ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตาม วันหยุดของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิกําหนดวัน...
ขอบเขตของการดําเนินงาน. 3.1 ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล และทบทวนยุทธศาสตร์ ผลการดําเนินงานของ สพพ. ในช่วงปี พ.ศ. 2552 ถึง พ.ศ. 2562 รวมทั้งข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ สพพ. ดังนี้ 1) ทบทวนยุทธศาสตร์เดิม 2) วิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับการดําเนินงานของ สพพ. ทั้งภายในและภายนอก 3) ศึกษา วิเคราะห์ และสรุปสาระสําคัญของยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแม่บทด้านการต่างประเทศ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) และยุทธศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 4) ประเมินผลยุทธศาสตร์ของ สพพ. ย้อนหลัง เพื่อเป็นการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของการดําเนินงานในอดีตที่ผ่านมา และสามารถนําผลการวิเคราะห์มาปรับใช้กับการจัดทํายุทธศาสตร์ 20 ปี ของ สพพ. (พ.ศ. 2563 - 2582) 3.2 ศึกษา วิเคราะห์ ทิศทางการพัฒนาในระดับนานาชาติ และแนวทางการดําเนินงานของ 3.3 จัดทําร่างยุทธศาสตร์ 20 ปี (พ.ศ. 2563 - 2582) ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 1) วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ตามที่กําหนดในข้อ 3.1-3.2 แล้วนํามากําหนดเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายหลัก และประเด็นยุทธศาสตร์ ในยุทธศาสตร์ 20 ปี ของ สพพ. (พ.ศ. 2563 - 2582) เพื่อ กําหนดสถานะ (Positioning) ของ สพพ. ในระยะยาวในการเป็นกลไกของรัฐบาลไทยด้านความร่วมมือเพื่อ การพัฒนาระหว่างประเทศ รวมถึงกําหนดเป้าหมายองค์กรในช่วง 20 ปีข้างหน้า 2) จัดทําประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด และแนวทางการดําเนินการในแต่ละ ประเด็นยุทธศาสตร์ โดยให้จัดทําเป็นช่วงเวลาทุกๆ 5 ปี ทั้งนี้ ประเด็นยุทธศาสตร์ในแต่ละช่วงเวลาจะต้อง ครอบคลุมอย่างน้อย 3 ด้าน คือ (2.1) ประเด็นยุทธศาสตร์ด้านภารกิจหลักของ สพพ. คือ การให้ความช่วยเหลือ ทางการเงินและทางวิชาการแก่ประเทศเพื่อนบ้าน (2.2) ประเด็นยุทธศาสตร์ด้านเงินทุนของ สพพ. (2.3) ประเด็นยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาองค์กร 3) เสนอแนะบทบาท ภารกิจ และสถานะ ของ สพพ. ในอนาคตเมื่อต้องเผชิญกับ สถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสถานการณ์ภายในประเทศ และสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านที่ ต้องการหลุดพ้นจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อย (Least Developed country : LDC) ในอนาคต 4) เสนอแนะแนวทางการวางแผนทรัพยากร (Endowment) ด้านงบประมาณและกําลังคน ของ สพพ. ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปี ของ สพพ. (พ.ศ. 2563 - 2582) 5) จัดทําตัวชี้วัดและแนวทางการติดตามประเมินผลยุทธศาสตร์ 20 ปี ของ สพพ. (พ.ศ. 2563 - 2582) 6) จัดทําข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (Policy Recommendation) ที่เป็นประโยชน์ต่อการ ดําเนินงานของ สพพ. ในระยะยาว ในฐานะหน่วยงานผู้ให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลไทย 3.4 จัดประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานของ สพพ. อย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อรับฟังความเห็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ดําเนินการ ดังนี้ 1) จัดประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 1 กับคณะกรรมการบริหาร สพพ. และผู้บริหาร สพพ. เพื่อกําหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์ 20 ปี ของ สพพ. ภายหลังจากดําเนินการในข้อ 3.1-3.2 และ 3.3 1) แล้วเสร็จ 2) จัดประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 2 ภายหลังจากการยกร่างยุทธศาสตร์ 20 ปีฯ ตามข้อ 3.3 แล้วเสร็จ เพื่อรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stake holder) ของ สพพ.
ขอบเขตของการดําเนินงาน 

Related to ขอบเขตของการดําเนินงาน

  • ข้อตกลงคุ้มครอง บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพ่ือความสูญเสีย หรือความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแก่บุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เน่ืองจาก อุบัติเหตุอันเกิดจากรถยนต์ที่ใช้ หรืออยู่ในทาง หรือสิ่งที่บรรทุก หรือติดตั้งในรถยนต์นั้น ในระหว่างระยะเวลาประกันภัยในนามผู้เอาประกันภัย ดังนี้

  • ข้อตกลงว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างตกลงจา้ งและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำงาน ซ่อมแซมถนนหินคลุก บ้านโนนแต้ หมู่ที่ 10 ตำบลเพ็ก ใหญ่ สายจากนานายสำ อุนโล ถึง นานางเสาวลักษณ์ ประทุมธง โดยปรับเกรดพื้นทางเดิมแล้วลงหินคลุก กว้าง ๒.๕๐ เมตร ยาว ๑,๒๐๐ เมตร หนาเฉลี่ย ๐.๑๐ เมตร หรือมีปริมาณหินคลุกไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ลบ.ม. และเกลี่ยเรียบ พร้อมติดตั้งป้ายโครงการ (รายละเอียดตามแบบแปลนที่ อบต. กำหนด) พิกัดเริ่มต้น N ๑๕.๘๒๕๐๘๘ E ๑๐๒.๕๓๙๓๗๑ พิกัดสิ้นสุด N ๑๕.๘๓๓๑๕๒ E ๑๐๒.๕๓๔๗๑๔ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขแห่งสัญญานี้รวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา ผู้รับจ้างตกลงทจะจัดหาแรงงานและวัสดุ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ชนิดดีเพื่อใช้ในงานจ้าง ตามสัญญานี้

  • แบบรูปและรายการละเอียดคลาดเคลื่อน ผู้รับจ้างรับรองว่าได้ตรวจสอบและทําความเข้าใจในแบบรูปและรายการละเอียดโดยถี่ถ้วนแล้ว หากปรากฏว่าแบบรูปและรายการละเอียดนั้นผิดพลาด หรือคลาดเคลื่อนไปจากหลักการทางวิศวกรรมหรือทาง เทคนิค ผู้รับจ้างตกลงที่จะปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของผู้ว่าจ้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ ปรึกษาที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้ง เพื่อให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ คําวินิจฉัยดังกล่าว ให้ถือเป็นที่สุด โดยผู้รับจ้างจะคิดค่าจ้าง ค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มขึ้นจากผู้ว่าจ้าง หรือขอขยายอายุสัญญาไม่ได้

  • การหักเงินประกันผลงาน ในการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างแต่ละงวด ผู้ว่าจ้างจะหักเงินจำนวนร้อยละ - ของเงินที่ต้องจ่ายในงวดนนั้ เพื่อเป็นประกันผลงาน ในกรณีที่เงินประกันผลงานถูกหักไว้แลวเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า - บาท ผู้รับจ้างมีสิทธที่จะขอเงินประกันผลงาน คืน โดยนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารหรือหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งออกโดยธนาคารภายในประเทศมามอบให้ผู้ว่าจ้างเพื่อ เป็นหลักประกันแทนก็ได้ ผู้ว่าจ้างจะคืนเงินประกันผลงาน และ/หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารดังกล่าวตามวรรคหนึ่งโดยไม่มี ดอกเบี้ยให้แก่ผู้รับจ้างพร้อมกับการจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย

  • ข้อสงวนสิทธิในการยื่นข้อเสนอและอื่น ๆ ๑๐.๑ เงินค่าจ้างสำหรับงานจ้างครั้งนี้ ได้มาจากเงินรายได้หน่วยงาน การลงนามในสัญญาจะกระทำได้ต่อเมื่อ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับ อนุมัติเงิน ค่าก่อสร้างจากเงินรายได้หน่วยงาน ๑๐.๒ เมื่อมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้คัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอรายใดให้เป็นผู้รับจ้าง และได้ตกลงจ้าง ตามการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ถ้าผู้รับจ้างจะต้องสั่งหรือนำสิ่งของมาเพื่องานจ้าง ดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศ และของนั้นต้องนำเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางที่มีเรือไทยเดินอยู่ และสามารถ ให้บริการรับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งเป็นผู้รับจ้างจะต้อง ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ดังนี้ (๑) แจ้งการสั่งหรือนำสิ่งของดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศต่อกรมเจ้าท่า ภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้รับจ้างสั่งหรือซื้อของจากต่างประเทศ เว้นแต่เป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ (๒) จัดการให้สิ่งของดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับ เรือไทยจากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ให้บรรทุกสิ่งของนั้น โดยเรือ อื่น ที่มิใช่เรือไทย ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตเช่นนั้นก่อนบรรทุกของลงเรืออื่น หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่น (๓) ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม (๑) หรือ (๒) ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดตามกฎหมายว่า ด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ๑๐.๓ ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้คัดเลือกแล้ว ไม่ไปทำสัญญาหรือ ข้อตกลงจ้างเป็นหนังสือภายในเวลาที่กำหนดดังระบุไว้ในข้อ ๗ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะริบหลักประกัน การยื่นข้อเสนอ หรือเรียกร้องจากผู้ออกหนังสือค้ำประกัน การยื่นข้อเสนอทันที และอาจพิจารณาเรียกร้องให้ ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงาน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัด ซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ๑๐.๔ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไข หรือ ข้อกำหนดในแบบสัญญาหรือข้อตกลงจ้างเป็นหนังสือให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด (ถ้ามี) ๑๐.๕ ในกรณีที่เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์นี้ มีความขัดหรือ แย้งกันผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คำวินิจฉัยดังกล่าวให้ถือเป็น ที่สุด และ ผู้ยื่นข้อเสนอไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ๑๐.๖ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาจประกาศยกเลิกการจัดจ้างในกรณีต่อไปนี้ได้ โดยที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ไม่ได้ (๑) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ไม่ได้รับการจัดสรรเงินที่จะใช้ในการจัดจ้าง หรือได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอที่ จะทำการจัดจ้างครั้งนี้ต่อไป (๒) มีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการจัดจ้างหรือที่ได้รับการ คัดเลือกมี ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็น ธรรมหรือสมยอมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใด ในการเสนอราคา (๓) การทำการจัดจ้างครั้งนี้ต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ (๔) กรณีอื่นในทำนองเดียวกับ (๑) (๒) หรือ (๓) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ