บทนํา ข้อกำหนดตัวอย่าง
บทนํา. 4
1. หลักการและที่มาของการดําเนินงาน 4
2. วัตถุประสงค 4
3. องคความรู/เทคโนโลยี/นวัตกรรมที่ถ่ายทอด 4
4. พื้นที่ดําเนินการ /บริบท 4
5. ระยะเวลาและสถานที่ในการดําเนินงานโครงการ 4
6. หนวยงานที่รับผิดชอบ 4
7. กลุมเป้าหมาย 4
8. ผลที่คาดวาจะได้รับ 5
9. งบประมาณในการดําเนินงาน 5 10.ตัวชี้วัดผลการดําเนินงาน 5
บทนํา. ประเด็นทางนโยบายดานส่ือที่มีการถกเถียงกนมาโดยตลอดก็คือ รฐั ควรปลอยใหสื่อ โดยเฉพาะสื่อวิทยุและโทรทัศนดําเนินการอยางเสรีตามกลไกตลาดเพื่อใหเกิดการแขงขันโดยไม ตองแทรกแซง หรือควรกําหนดกฎเกณฑในการกําก ดูแลสื่อเพอเื่ กิดประโยชนสูงสุดตอ สาธารณะจากการทําใหเกิดความหลากหลายในการนําเสนอขอมูลขาวสารท่ีมีคุณภาพแกคนใน สังคม รายงานเรื่อง “วัตถุประสงค ภาพท่ีพึงปรารถนาและหลักการท่ีควรจะเปนของระบบส่ือ” โดยสมเกียรติ และธนวิทย (2546ก) ไดระบุถึงปญหาของส่ือในประเทศไทยในเชิงโครงสรางไว วา ในปจจุบัน สื่อวิทยุและโทรทศั นท่ีดําเนินการในรูปแบบธุรกิจประสบปญหาจากการพึ่งรายได จากโฆษณาทําใหตองผลิตเนื้อหาที่สนองกับความตองการของตลาด ซึ่งอาจทําให องละเลย กลุมเปาหมายที่ไมมีกําลังซ สื่อวิทยและโุ ทรทัศนในปจจ ุบนยั งเสี่ยงตอการถูกครอบงําดวย อํานาจรัฐจากการแทรกแซงในรูปแบบตางๆ นอกจากนี้ผูประกอบการรายยอยก็ไมสามารถที่จะ แขงข กับกลุมทนหรอผปูื ระกอบการรายใหญได เนองจากื่ เสียเปรียบในเรอื งของประสิทธิภาพ ในการดําเนินงาน สวนรายงานเร่ือง “โครงสรางตลาดของสื่อวิทยุและโทรทัศน โดยสมเกียรติ และธนวิทย (2546ข) ไดระบุปญหาโครงสรางวา มีแนวโนมการกระจุกตัวในส่ือวิทยุและโทรทัศนในประเทศ ไทย ซึ่งทําใหเ กิดการขาดความหลากหลายในการนําเสนอขาวสารไปยังประชาชน ในขณะท่ี การมีอํานาจเหนือตลาดของผปู ระกอบการสถานีโทรทัศนและวิทยุรายใหญ ซึ่งมีสวนแบงตลาด สูงและการผนวกกันในแนวด่ิง (vertical integration) ทําใหเกิดพฤติกรรมกีดกันการแขงขัน พฤติกรรมด กลาวทําใหผูประกอบการรายใหมไมสา มารถเขาสูตลาด หรอไมสาื มารถแขงขนไดั ซึ่งทําใหผูบริโภคขาดทางเลือก นอกจากนี้ กลไกในการไดมาซึ่งสิทธิในการใชคลื่นความถ่ี ซ่ึง จําเปนตอการประกอบการเปนกระบวนการท่ีไมมีความโปรงใส อยูในระบบอุปถัมภและนา สงสัยวาจะมีการคอร ัปชั่นมาก รายงานการวิจยฉบับนี้ จะพิจารณาถึงการกํากับดูแลสื่อวิทยุและโทรทัศนในเชิงโครง สร ง เพ่ือนําเสนอขอเสนอแนะทางนโยบายในการปฏิรูประบบสื่อใหม ีความหลากหลายในการ นําเสนอขาวสารและความคิดเห็น ปรับโครงสรางตลาดสื่อใหเอื้อตอการแขงขันอยางเสรีและเปน ธรรม บนพ ฐานของการดําเนินงานที่มประสิทธิภาพ และทนตอการเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยี ประเด็นด นโครงสรา งท่ีจะกลาวถึงในรายงานฉบับนจะเ้ี กยว่ี ของกับประเดนทส่ี็ ําคัญ
บทนํา. 1
1.1 ที่มาและความสำคัญ 1
บทนํา. ความสําคัญและที่มาของปัญหาการวิจัย……………………………………………………………… 1 วัตถุประสงค์ของการวิจัย…………………………………………………………………………………… 3 ขอบเขตของการวิจัย………………………………………………………………………………………… 5 ข้อตกลงเบื้องต้น (ถ้ามี) …………………………………………………………………………………… 7 ขอบเขตของการวิจัย………………………………………………………………………………………… 7 ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย……………………………………………………………………………… 7
บทนํา. 1.1 เจ้าของโครงการมีความประสงค์จะจัดหาพร้อมติดตั้งเครื่อง วัสดุและอุปกรณ์ในระบบลฟต์ และ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ สำหรับใช้งานโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิม พระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ พื้นที่โซน C กรุงเทพมหานคร อย่างสมบูรณ์ตาม รายละเอียดที่ระบุไว้ในแบบ และข้อกำหนดที่จะได้กล่าวถึงต่อไป
1.2 วัสดุและอุปกรณ์ตลอดจนการติดตั้งระบบต่าง ๆ ตามข้อกำหนดต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งาน ภายใต้สภาพภูมิอากาศแวดลอม ดังต่อไปนี้.-
บทนํา. ภูมิหลัง
บทนํา. 1.1 ความเป็นมาและความสําคัญ 1.2 คําถามวิจัย 1.3 วัตถุประสงค์ 1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 1 2 3 4 5
บทนํา. ประกอบด้วย ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์การวิจัย ขอบเขตการวิจัย กรอบแนวคิดการวิจัย สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี) นิยามศัพท์/นิยามศัพท์เชิงปฏิบัติการ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และข้อจำกัดการวิจัย (ถ้ามี)
บทนํา. โดยที่มหาวิทยาลัยและสวนงานมีการจัดทําประกาศเพื่อใหทุนแกนักศึกษาทั้งในระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา ซึ่งในแตละทุนจะมีรายละเอียดของหลักเกณฑที่มีความหลากหลายและแตกตางกัน ตามวัตถุประสงคและเงื่อนไขการใหทุน งานกฎหมายและนิติกรรมสัญญา กองกฎหมาย พบวารางประกาศเกี่ยวกับ การใหทุนการศึกษาที่มีการสงใหกองกฎหมายตรวจสอบกอนที่สวนงานหรือหนวยงานภายในสํานักงานอธิการบดี จะเสนออธิการบดีหรือหัวหนาสวนงาน แลวแตกรณี พิจารณาลงนามออกประกาศตอไปนั้น นอกจากมีขอผิดหลง หรือองคประกอบบางประการที่แตกตางไปจากรูปแบบประกาศของมหาวิทยาลัยแลว ยงั มีลําดับเนื้อความ ความชัดเจน ของหลักเกณฑ ลักษณะการใชถอยคํา และความครบถวนของหลักเกณฑที่จําเปนตองกําหนดไวเพื่อประโยชน ตอการบริหารทุนที่แตกตางกัน ซึ่งสงผลใหการจัดทําประกาศเพื่อใหทุนแกนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยมิไดเปนไป ในแนวทางเดียวกัน และจําเปนตองอาศัยดุลพินิจของอธิการบดี หัวหนาสวนงาน หรือคณะกรรมการบริหารทุน (ถามี) แลวแตกรณี ในการตีความหลักเกณฑที่ไมชัดเจนเพียงพอนั้น นอกจากนั้นในกรณีที่กําหนดเงื่อนไขใหนักศึกษา ตองทําสัญญารบทุนเพื่อกําหนดใหม ีภาระผูกพันเก่ียวกับการปฏิบัติงานชดใช ุน การชดใชเงินแทนการปฏิบติงาน หรือการชดใชคืนเงินทุนในการปฏิบัติผิดสัญญา ยังมีขอสับสนเกี่ยวกับสาระสําคัญของสัญญารับทุน การขออนุมัติ แบบสัญญา รวมถึงผูมีอํานาจลงนามในสัญญาดังกลาวดวย สงผลใหในการตรวจสอบรางประกาศและหรือสัญญา เกี่ยวกับการใหทุนการศึกษาแกนักศึกษาในแตละกรณี เปนการดําเนินการที่จําเปนตองใชระยะเวลาคอนขางมากใน การหารือรวมกับผูประสานงานของสวนงานหรือหนวยงานตนเรื่องเพื่อใหไดมาซึ่งรายละเอียดหลักเกณฑที่ถูกตอง ชัดเจน และสอดคลองกับวัตถุประสงคการใหทุน ซึ่งอาจกระทบตอการดําเนินการใหทุนและบริหารทุนของมหาวิทยาลัย และสวนงานเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาใหแกนักศึกษา งานกฎหมายและนิติกรรมสัญญา กองกฎหมาย จึงเล็งเห็นถึงความสําคัญในการจัดทําแนวทางการ จัดทําประกาศใหทุนและสัญญารับทุนนักศึกษา เพื่อใหมหาวิทยาลัยและสวนงานมีรูปแบบของประกาศใหทุนและ สัญญารับทุนนักศึกษาใชอางอิงในการดําเนินการใหทุนการศึกษาของสวนงานและมหาวิทยาลัย ซึ่งเปนการ สนับสนุนงานดานกฎหมายและนิติกรรมสัญญาที่เกี่ยวกับการใหทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยและสวนงานใหเปนไป อยางถูกตอง ครบถวน เปนประโยชนตอการบริหารทุนการศึกษา และตอบสนองตอความจําเปนเรงดวนในการให ทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนการศึกษาใหแกนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะชวยสนับสนุนพันธกิจของสวนงานและ ตอบสนองตอแผนยุทธศาสตรมหาวิทยาลัยตอไป การใหทุนการศึกษามีลักษณะเปนการจายเงินอุดหนุนตามขอ ๒๒.๔ ของประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑและวิธีการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน การเบิกเงิน การจายเงิน และการควบคุมดูแลการจายเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แกไขเพ่ิมเติม ซึ่งกําหนดวา “การจายเงินอุดหนุน ใหจายไดตามวัตถุประสงคที่กําหนดไวใหกับ บุคคลหรือหนวยงาน ดังนี้ ... ๒๒.๔ เพื่อเปนทุนการศึกษา โดยทําเปนประกาศของมหาว ยาลัยหรือส นงาน ...” และขอ ๒๓ ของประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑและวิธีการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน การเบิกเงิน การจายเงิน และการควบคุมดูแลการจายเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แกไขเพิ่มเติม มหาวิทยาลัยและสวนงานจึงสามารถ ออกประกาศกําหนดหลกเกณฑและอัตราการให ุนการศึกษาไดโดย...
บทนํา. เครือหมาน้อย (Cyclea brabata Miers.) ชื่ออื่นๆ กรุงเขมาของ กรุงบาดาล หรือใบก้นปิด เป็นพืช เถาที่อยู่ในวงศ์ Menispermaceae เป็นพืชผักพื้นเมือง ที่นิยมนําใบมาขยี้กับน้ําต้มสุกแล้วกรองเอากากใบ ออก ปรุงรสด้วยน้ําปลาร้า เนื้อปลาสุก พริกปุน ตามชอบ แล้ว เติม ข้าวคั่ว ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี ถั่วฝักยาว หั่น คนให้เข้ากัน ตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 15 นาที น้ําคั้นจะเซ็ตตัวกลายเป็นวุ้น รับประทานเป็นอาหาร คาว ในภาคอีสาน หรือ คั้นกับเกลือเล็กน้อย ปล่อยให้แข็งแล้วนํามาปรุงเป็นลาบ ยํา หรืออาหารหวานกับ น้ําเชื่อม ในภาคเหนือ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร หมาน้อยเป็นหนึ่งในสาม พืชที่หน่วยงานคัดเลือกศึกษาในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เริ่มตั้งแต่ปี 2560 ความเป็นมาในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับหมาน้อยของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต สกลนคร ได้เริ่มดําเนินการมาตั้งแต่ปี 2538 จากการสํารวจทรัพยากรท้องถิ่นในจังหวัดสกลนครภายใต้ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในปี 2538 จากการสํารวจพบพืชท้องถิ่นที่น่าสนใจและนํามาพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือเริ่มจากหมากเม่า จนเกิด ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นพืชท้องถิ่นที่มีศักยภาพสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการมา จนถึงปัจจุบัน และอีกพืชหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษคือหมาน้อย โดยที่ใบของหมาน้อยเมื่อคั้นกับน้ําสามารถก่อตัว เป็นเจลได้โดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยอื่น เช่นน้ําตาลหรือกรด จึงได้มีการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจาก การศึกษาชุดโครงการ แผนพัฒนากรุงเขมาสู่พืชเศรษฐกิจ ในปี 2548 ซึ่งประกอบด้วยการขยายพันธุ์ด้วย วิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การปลูกดูแลรักษา การสกัดเพคติน ในการศึกษาในครั้งนั้นเกิดผลผลิตใบแห้งจาก การวิจัย ท่ําได้นํามาพัฒนาเป็นผงพอกหน้า และมีการศึกษาต่อมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2560 ได้นําเข้าเป็น พืชศึกษาในโครงการ อพ.สธ. ได้มีการศึกษาพัฒนาการใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ตลอดจนการส่งเสริมและถ่ายทอดสู่ชุมชนเพื่อฟื้นฟูการใช้ประโยชน์ในท้องถิ่น โดยเริ่มในชุมชนเครือข่ายของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสานวิทยาเขตสกลนคร และผู้ที่สนใจ วิธีการในการศึกษาเลือกใช้วิธีการแบบผสมผสาน โดยเริ่มต้นด้วยการสํารวจและรวบรวมข้อมูลจาก ชุมชน ถอดองค์ความรู้การใช้ประโยชน์จากชุมชน และการทดลอง เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การปลูกในแปลง เกษตรกร การพัฒนาใช้ประโยชน์เชิงอาหาร เครื่องสําอาง และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นกลับสู่ชุมชน เครือข่ายของมหาวิทยาลัย จากการศึกษาข้อมูลของ หมาน้อย หรือ กรุงเขมา พืชท้องถิ่น ของจังหวัดสกลนคร โดยศึกษาตั้งแต่ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การขยายพันธุ์ การใช้ประโยชน์ การถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน และจากความ เปลี่ยนไปของยุคสมัยที่ทําให้การใช้ประโยชน์ของที่มีอยู่เดิมในท้องถิ่นลดลง อย่างมาก จึงได้มีการฟื้นฟูการใช้ ประโยชน์ในชุมชน ซึ่งมีผลการดําเนินการดังต่อไปนี้