สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้ ข้อกำหนดตัวอย่าง

สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. ในบริบทของสาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะนั้น ผู้เรียนจะได้ศึกษา และปฏิบัติเกี่ยวเทคโนโลยีทางด้านการ เชื่อมทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำ ให้ผู้เรียนต้องมีความรู้ ทักษะ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเรียนการสอน และการทำงาน หากจัดการเรียน ด้วยการบรรยาย และสื่อ Power point และตำราเรียนเพียงอย่างเดียว จะไม่เกิดการเรียนรู้ที่สนุกสนาน น่าสนใจ และได้รับความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษะการอ่าน การเขียน การวิเคราะห์และทักษะในการปฏบัติ ซึ่งส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำสำหรับผู้เรียนบางคนที่ไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ผู้สอนจึงมีแนวความคิดที่จะนำเทคโนโลยีสื่อนวัตกรรมมา การปรับประยุกต์ และพัฒนาทักษะการจัดการ เรียนการสอนของผู้เรียน จึงได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชางานเชื่อมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ 1มา แก้ปัญหา ด้วยการใช้กระบวนการเรียนแบบร่วมมือเป็นกลุ่มให้กับนักเรียน เพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนสร้างความรู้จาก ประสบการณ์เดิม มีปฏิบัติสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มผู้เรียน และครูผู้สอน มีการสื่อสารโดยการอ่าน การพูด การเขียน แลกเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และงานที่ได้รับมอบหมาย
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. การจัดการเรียนรู้ในยุคศตวรรษที่ 21 เรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทสําคัญในการศึกษาเป็น อย่างมาก ส่งผลให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างตลอดเวลาและต่อเนื่อง ดังนั้นการจัดการศึกษาจึงต้องมีรูปแบบที่ เหมาะสม สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลก และในยุค Education
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. ในบริบทของวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชีพช่างอุตสาหกรรมนั้น ผู้เรียนจะได้ศึกษา ในเรื่องการวัดและ ปริมาณเวกเตอร์ แรง การรวมแรงและการแยกแรง การสมดุลของวัตถุ ฯลฯ ซึ่งวิชาในการคำนวณ เป็นวิชาที่ ผู้เรียนคะแนนผลสัมฤทธิ์ต่ำ เนื่องด้วยผู้เรียนไม่เข้าใจ ไม่สามารถคำนวณออกมาได้ หากจัดการเรียนด้วยการ บรรยาย และสื่อ Power point และตำราเรียนเพียงอย่างเดียว จะไม่เกิดการเรียนรู้ที่เป็นระบบ ซึ่งส่งผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนก็จะต่ำเหมือนเดิม ผู้สอนจึงมีแนวความคิดที่จะนำเทคนิคการสอนรูปแบบที่เหมาะสมกับวิชาที่ใช้ในการคำนวณมา การปรับ ประยุกต์ และพัฒนาทักษะการจัดการเรียนการสอนของผู้เรียนให้เป็นขั้นตอน เป็นระบบมากขึ้น จึงได้จัดกิจกรรม การเรียนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชีพช่างอุตสาหกรรม มาแก้ปัญหาด้วยการใช้เทคนิคการสอน แบบ KWDL เพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนฝึกการคิดวิเคราะห์ คำนวณอย่างเป็นระบบ ขั้นตอน แก้ปัญหาเป็น
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. ในการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมา พบว่าผู้เรียนยังขาดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทําข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าท้าย เรื่อง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ได้กล่าวถึงการอ่านออกเสียงคำไว้ในสาระการเรียนรู้ที่ 1 การอ่าน มาตรฐานการจัดการเรียนรู้ ท 1.1 ตัวชี้วัดที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยกำหนดให้นักเรียน สามารถอ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นและบทร้อยกรองง่ายๆได้ถูกต้องคล่องแคล่ว การอ่านออกเสียงคำจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ได้กำหนดการเรียนการสอนไว้ตามหลักสูตรและได้มีการทดสอบในระดับหน่วยงานและระดับชาติ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ พัฒนาการเรียน การสอน สื่อความรู้ความเข้าใจในบริบทของข้อความถือเป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย และการอ่านนับได้ว่ามีความหมายและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ การที่นักเรียนอ่านออกเสียงคำได้นั้น จะเป็นผลทำให้ผู้เรียนสามารถเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ในรายวิชาต่างๆ รวมถึงการติดต่อ สื่อสาร กับผู้อื่นได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ และเป็นการปลูกสำนึกให้ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่าน เพื่อเกิดทักษะทางภาษา และเห็นคุณค่าของภาษาไทย
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสําหรับเด็กปฐมวัยนั้น เด็กส่วนใหญ่มีปัญหาด้าน ความสามารถในการใช้ กล้ามเนื้อมัดเล็ก และเนื่องจากเด็กในระดับปฐมวัยยังไม่มีความคล่องตัว ไม่มี ทักษะในการใช้มือและสายตาประสาน สัมพันธ์กัน กล้ามเนื้อเล็กยังไม่แข็งแรง ไม่สามารถใช้มือได้อย่าง คล่องแคล่ว ตลอดจนการใช้ ความคิดสร้างสรรค์และ จินตนาการ อาจเป็นเพราะเด็กไม่ได้รับการ ส่งเสริมการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กเท่าที่ควร เนื่องจากสภาพการอบรม เลี้ยงดูจากทางบ้านที่มักไม่ ปล่อยให้เด็กทํากิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งทําให้มีผลเสียต่อพัฒนาการของเด็ก ใน ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองมีค่านิยมในการเร่งให้เด็กเขียนหนังสือได้ก่อนวัยอันควร โดยไม่คํานึงถึงความพร้อมของเด็ก และกระบวนการจัดกิจกรรมของครูผู้สอนในโรงเรียนยังขาดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก เฉพาะด้าน จากสภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้น เด็กจึงควรได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครูผู้สอน ควรหา วิธีการที่จะช่วยแก้ปัญหา โดย ใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กอนุบาลปี่ที่ 2 ให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่มีความสำคัญและใช้ติดต่อสื่อสารกันทั่วโลก สำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษาได้กำหนดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษในหมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง จากคำอธิบาย รายวิชานักเรียนนักศึกษาต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวันและสามารถสื่อสาร ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันตามสถานการณ์ที่กำหนดได้ ดังนั้นผู้เรียนจึงต้องมีพื้นฐานในการเรียนที่ดี จึงสามารถเรียนใน ขั้นสูงต่อไปได้ ซึ่งการเรียนทฤษฎีที่หากจัดการเรียนการสอนด้วยการบรรยาย สื่อ Power point หรือใช้ตำราเรียนเพียง อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และไม่เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนมีผลการเรียนรู้ที่ต่ำ ดังนั้นในฐานะครูผู้สอน จึงมีแนวความคิดที่จะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนโดย ผู้เรียนที่จะสำเร็จการศึกษา ต้องมีการพัฒนาการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับตนเอง จึงนำรูปแบบการสอนแบบ Module มาการปรับประยุกต์ และพัฒนา ทักษะการจัดการเรียนการสอนของผู้เรียนให้เรียนรู้ที่หลากหลาย ได้สืบค้น ได้ลงมือปฏิบัติร่วมด้วย จึงได้จัดกิจกรรมการ เรียนการสอนรูปแบบ Module มาแก้ปัญหาด้วยการใช้การเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้น
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. การเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย ของนักเรียนในห้องเรียน พบว่านักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ การเรียนค่อนข้างน้อย และมีปัญหาด้านการอ่านจับใจความสําคัญ จากการศึกษาเอกสารพบว่า นวัตกรรมการ สอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญหลาย ๆ อย่างที่ได้มีการสร้างขึ้น เช่น รูปแบบการสอนการอ่านจับใจความสําคัญ ตามเทคนิคบันได 6 ขั้น เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูง สําหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เนื้อหามีความน่าสนใจจึงนํามาใช้ในการสอนนักเรียน ดังนั้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียนในรายวิชาวิชามากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ผู้สอนจึงเลือก วิธีการสอนโดยการอ่านจับใจความสําคัญ ตามเทคนิคบันได 6 ขั้น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนได้อย่างยั่งยืนตามหลักการของ ยุทธศาสตร์ชาติที่ได้วางไว้ และเป็นแนวทางในการเรียนรู้ของนักเรียนที่ดีอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งสามารถนําไป ประยุกต์ใช้กับการเรียนได้อย่างยั่งยืน
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเรื่องกำรแก้โจทย์ปัญหำคณิตศำสตร์ ชั้น ประถมศึกษำปีที่ 3 เรื่องกำรคูณที่ผ่ำนมำ พบว่ำ นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 ร้อยละ 35 มีปัญหำในกำรแก้ โจทย์ปัญหำกำรคูณ จํำหลักกำรแก้โจทย์ปัญหำทำงคณิตศำสตร์ไม่ได้ สำเหตุเกิดจำกนักเรียนไม่สำมำรถค้นพบ องค์ควำมรู้ด้วยตนเอง ไม่สำมำรถนํำไปประยุกต์ใช้ได้อย่ำงถูกต้อง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนไม่เป็นไปตำม เป้ำหมำยที่โรงเรียนกํำหนด
สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้. จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ พบว่าพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล ปีที่ 2/2 ยังไม่พร้อมเท่าที่ควรสังเกตจากการส่งงานแบบฝึกหัดรายหน่วยแบบ On Hand เด็กยังจับดินสอ จับสี ไม่ถูกวิธี การลากเส้นเด็กยังลากไม่ตรงกับเส้นประ และจะลากซ้ำๆอยู่ที่เดิม และในขณะที่เด็กทำกิจกรรม ศิลปะเด็กระบายสีออกนอกเส้น ซึ่งสาเหตุมาจากการที่เด็กเรียนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กไม่ได้รับการฝึกฝนหรือ ส่งเสริมให้ใช้มือจากการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จึงขาดทักษะในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการ ปฏิบัติกิจกรรมเหล่านั้น กล้ามเนื้อมัดเล็กจึงอ่อนแอ ขาดความแข็งแรง ทำให้ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อ มัดเล็กถดถอยลงไป มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการเรียนรู้ของเด็ก ดังนั้น ครูผู้สอนจึงต้องการพัฒนาทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2/2 พัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัยต่อไป เพื่อให้ เด็กมีทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กที่ดีขึ้นซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาการเขียนและการช่วยเหลือตนเองใน ชีวิตประจำวันได้ต่อไป